“เรืองไกร”ตามกัดไม่เลิก ส่งนส.จี้ “บิ๊กตู่”สอบ “ปารีณา”ปมคืนที่ดินภ.บ.ท.5 ชี้เข้าข่ายผิดกม.ปปง. มาตรา3(15) หาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบ วันที่ 2 ม.ค.63 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทางไปรษณีย์ลงวันที่ 2 ม.ค. 63 เพื่อให้ตรวจสอบ ถึงกรณีที่น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ทำหนังสือส่งคืนพื้นที่ ภ.บ.ท. 5 เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่า จากข้อกล่าวในหนังสือดังกล่าวจึงมีเหตุร้องขอให้นายกฯตรวจสอบต่อไปโดยเร็วว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดังกล่าวอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้นจะเข้าข่ายความผิดมูลฐานตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (15)หรือไม่ เพราะเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยีดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการค้า ประกอบกับความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องเสร็จที่ 1249/2557 ได้วินิจฉัยและมีความเห็นเกี่ยวกับความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (15)ไว้แล้ว นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า เมื่อไปตรวจสอบกับบัญชีทรัพย์สินของน.ส.ปารีณา ที่ยื่นป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่งส.ส.เมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 ได้แจ้งไว้ส่วนหนึ่งว่ามีรายได้ประจำจากการเลี้ยงไก่109,962,076.14 บาทมีรายได้อื่นๆจากการเลี้ยงวัว 675,000.00 บาท และมีรายจ่ายอื่น ๆฟาร์มไก่ 107,770,454.07 บาท เพราะฉะนั้นจากหนังสือที่ส่งคืนให้ส.ป.ก.ประกอบหนังสือแจ้งรายได้จากการเลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว กรณีจึงมีประเด็นที่ตามมาว่า จะเข้าข่ายความผิดมูลฐานตามพ.ร.บ.ป.ป.ง. 2542 มาตรา 3 (15)หรือไม่ ประกอบกับกฎหมายป.ป.ง.นั้นนายกฯเป็นผู้รักษาการ