‘มท.1’ อวยพรปีใหม่ 2563 ขอประชาชนมีสุข สร้างมงคลชีวิต สังคมดี แนะอย่าเอาแต่สบาย ยึดหลัก ‘ปรัชญาศก.พอเพียง - สืบสาน รักษา ต่อยอด’ เป็นแนวทางสู้ ‘ดิสรัปชั่น’ วันที่ 31 ธ.ค. 62 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอวยพรพี่น้องประชาชนเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2563 ว่า ขอให้ทุกท่านประสบแต่สิ่งที่ดี มีความสุขสมหวังรวมทั้งขอให้ช่วยกันสร้างสังคมที่ดี เพื่อทำให้ทุกคนมีความสุขร่วมกันตลอดปีใหม่ที่จะถึงนี้ กระทรวงมหาดไทยจะทำงานตอบสนองพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อย่างไรก็ตามเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่อยากให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตัวในวันสำคัญ ทั้งวันปีใหม่สากลและวันปีใหม่ไทย ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตให้เป็นมงคล เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ การตักบาตรทำบุญ การทำกิจกรรมในลักษณะที่สร้างสรรค์ต่อตัวเองและครอบครัว และไม่ต้องการให้ประชาชนใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในทางที่เสี่ยงต่อชีวิตตัวเอง เช่น การดื่มสุรา การเมาแล้วขับ เพราะผิดกฎหมาย ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ หรือไปทำความเสียหายต่อผู้อื่น ซึ่งรัฐบาลอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนไปทำกิจกรรมที่เป็นมงคลต่อตัวเอง พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึง บริบททางเศรษฐกิจและการเมืองในปี 2563 ว่า ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาเคยอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่คนระบุว่าเป็นสังคมแห่งวัตถุนิยม ชีวิตผู้คนเต็มไปด้วยความฟุ้งเฟ้อ แต่ในขณะนี้ที่อยู่ในบริบทของภาวะเศรษฐกิจที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง หรือภาวะดิสรัปชั่น ส่งผลให้เกิดผลกระทบไปยังการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน การบริโภคจับจ่ายใช้สอย ตลอดจนการประกอบอาชีพ สิ่งสำคัญคือเรามีหลักยึดที่ดีแต่ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์มากนัก คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรและหลักการสืบสาน รักษาและต่อยอดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งใจความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริ ไม่ได้สอนให้คนตระหนี่ แต่สอนให้มีความรู้ มีคุณธรรม และรู้จักพอประมาณ มีเหตุผลเมื่อจะต้องตัดสินใจทำอะไร รวมถึงป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหลักยึดนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั่วทั้งหมดสำหรับทุกคน ทั้งในมิติของการทำธุรกิจ การดำรงชีวิต เมื่อรู้ว่ายังมีความรู้ที่ขาดก็จำเป็นต้องพัฒนาเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ ซึ่งทุกคนจำเป็นต้องมีการขยับพัฒนาตนเองบนฐานของเหตุผลและคุณธรรม “เรามีหลักยึดที่ดีที่ควรนำไปปฏิบัติใช้ ถ้านำไปใช้ใช้สามารถนำไปต่อสู้กับภาวะดิสรัปชั่นที่เข้ามาได้ แต่ถ้าเราไม่ใช้ เราเสพทุกอย่างในปัจจุบันที่จะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย แต่อาจมีรายได้ที่ยังไม่เหมาะสม หรือการที่ไม่มีภูมิต้านทาน สภาพสังคมโดยรวมก็จะแย่ ความอยากมี อยากได้ อยากเสพก็อาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมา และขอเชิญชวนให้ทุกคนนำแนวพระราชดำริและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต” รมว.มหาดไทย กล่าว