วันที่ 27 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปราการ มสิกพรรค์ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง (นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนางสาววัลภา คงสกุล หัวหน้าฝ่ายทะเบียนรถ (เจ้าพนักงานขนส่งอาวุโส) และ ผู้ตรวจการขนส่ง นำนักศึกษาภาควิชาช่างยนต์ จากวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ และ วิทยาลัยการอาชีพพิชัย ตรวจสอบความพร้อมพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ และ สภาพตัวรถโดยสารสาธารณะ หรือ รถทัวร์ สายภาคอีสาน ภาคตะวันออกและ ภาคเหนือ ที่วิ่งเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อตรวจความพร้อมของรถทัวร์โดยสาร อาทิ ประตูฉุกเฉินบนรถต้องไม่มีสิ่งใดกีดขวางทางประตู รวมถึงอุปกรณ์ดับเพลิง ตรวจสภาพ ที่ปัดน้ำฝน กระจกมองข้างรถ ไฟหน้ารถ ไฟท้ายรถและสภาพยางรถยนต์ ตรวจระบบการจีพีเอสประจำรถ ตรวจสอบใบอนุญาตคนขับรถยนต์ประจำทาง สมุดประจำรถ ตรวจวัดแอลกอลฮอล์ในเลือด ด้วยวิธีการเป่าลมหายใจ ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด เป็นการตรวจความพร้อมของสภาพรถทัวร์ พร้อมพนักงานขับรถทัวร์ ระหว่างเดินทางพาผู้โดยสารกลับสู่ภูมิลำเนาหรือกลับบ้านในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า-รับปีใหม่ปีใหม่ 2563 เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารที่มากับรถทัวร์ทุกคัน โดยบรรยากาศการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ที่ จ.อุตรดิตถ์ เป็นไปอย่างคึกคัก นายปราการ มสิกพรรค์ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง (นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ) กล่าวว่า เพื่ออำนวยความสะดวก เข้มข้น จริงจัง ตามมาตรการรักษาความปลอดภัย และ สร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน ขนส่งจังหวัดอุตรดิตถ์ กรมการขนส่งทางบก จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจความพร้อมของรถ และ คนขับ กรณีเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุจากสภาพตัวรถ หรือ การละเลยการปฏิบัติตามเงื่อนไขความปลอดภัยที่กำหนด จะพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิดในสถานหนัก และ ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบทุกกรณี ถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ตรวจสอบการติดตั้งเข็มขัด และ ดูแลให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง หากพบผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามทำการออกเดินรถจากสถานีอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ หากเที่ยวรถปกติไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร สถานีขนส่งจะจัดเที่ยวรถเสริมให้เพียงพอต่อความต้องการประชาชนที่จะเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่เพิ่มขึ้นอีก เพื่อไม่ให้มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความปลอดภัย พบกลุ่มมิจฉาชีพ หรือ ได้รับการให้บริการไม่เป็นธรรม ถูกเอาเปรียบ พบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย รถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย ขับเร็วเกินอัตราที่กำหนดหรือมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง นายปราการ กล่าว.