เจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาคตรังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมเข้มการท่องเที่ยวทะเลทั้ง เรือทัวร์และเรือโดยสาร โดยชุดปฏิบัติการพิเศษประจำท่าช่วงเทศกาลปีใหม่
วันที่ 29 ธ.ค.62 ที่บริเวณท่าเรือชั่วคราวปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตำรวจภูธร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรัง และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่ได้ จัดตั้งศูนย์อำนวยการและควบคุมความปลอดภัยทางน้ำ เมืองท่าตรัง เทศกาลปีใหม่ 2563 ขึ้น เพื่อบูรณาการควบคุมความปลอดภัยทางทะเล โดยคุมเข้มการท่องเที่ยวทะเลทั้ง เรือทัวร์และเรือโดยสาร เรือสปีทโบ๊ท รวมทั้งเรือหางยาวที่รับเหมาท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดตรังมีเรือโดยสารให้บริการอยู่ในพื้นที่ จำนวน 135 ลำ เรือเร็ว (สปิดโบ๊ท) จำนวน 56 ลำ โดยร่วมกันจัดระเบียบเข้มตั้งแต่การลงเรือ เนื่องจากเป็นท่าเรือชั่วคราว จึงมีการจำกัดจำนวนคนที่หน้าท่าเรือไม่เกิน 80 คน ตรวจสอบจำนวนคนและรายชื่อนักท่องเที่ยวที่ลงเรืออย่างละเอียดของแต่ละบริษัท ป้องกันการสูญหาย ห้ามบรรทุกเกินน้ำหนัก และต้องสวมใส่เสื้อชูชีพทุกคนก่อนออกจากท่า โดยเฉพาะสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรังได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษประจำท่าทุกท่า โดยมีกล้องบันทึกภาพติดหมวก เพื่อไว้ตรวจสอบบันทึกความพร้อมของเรือและนักท่องเที่ยวทุกลำ ก่อนจะปล่อยออกจากท่าเรือ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่ท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดตรัง
นายวินัย หมื่นสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง กล่าวว่า ตั้งแต่ก่อนเทศกาลทางเจ้าท่าได้ตรวจความพร้อมของท่าเรือ ทั้งใบอนุญาตเรือ คนขับเรือ และขณะนี้ได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษที่จะมีกล้องถ่ายรูป กล้องบันทึกภาพติดอยู่ที่หมวกด้วย เพื่อไว้สำหรับการสุ่มตรวจเรือโดยสารว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการที่จะออกเรือ ทั้งอุปกรณ์ชูชีพ การสวมชูชีพ กล้องนี้จะทำหน้าที่บันทึกไว้เหมือนกับตำรวจจราจรหรือตำรวจสายตรวจ เรือทุกลำที่จะออกจากท่าจะมีการสุ่มตรวจทุกลำ ถ้าพบเรือลำใดไม่ปฏิบัติการตามกฎปลอดภัย ถ้าผู้โดยสารยังไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ นายเรือจะออกเรือไม่ได้ ถ้านายเรือออกเรือไปก็เท่ากับว่าฝ่าฝืนกฎหมายของเจ้าท่า จะส่งผลต่อการลงโทษทางอาญาและลงโทษทางปกครอง โดยโทษทางอาญาก็มีเปรียบเทียบปรับ และทางปกครองก็คือ ขั้นการถอนใบอนุญาต จึงต้องกำกับให้เรือทุกลำปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเนื่องจากนักท่องเที่ยวทางน้ำมีเป็นจำนวนมาก จึงต้องสร้างมาตรฐานในการบริการ จึงต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้เข้มข้น หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะสร้างความเสียหาย จึงมีชุดปฏิบัติการในการติดกล้องไว้ที่หมวกเพื่อทำการบันทึกไว้ด้วย
นายวินัย หมื่นสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง กล่าวว่า ตั้งแต่ก่อนเทศกาลทางเจ้าท่าได้ตรวจความพร้อมของท่าเรือ ทั้งใบอนุญาตเรือ คนขับเรือ และขณะนี้ได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษที่จะมีกล้องถ่ายรูป กล้องบันทึกภาพติดอยู่ที่หมวกด้วย เพื่อไว้สำหรับการสุ่มตรวจเรือโดยสารว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการที่จะออกเรือ ทั้งอุปกรณ์ชูชีพ การสวมชูชีพ กล้องนี้จะทำหน้าที่บันทึกไว้เหมือนกับตำรวจจราจรหรือตำรวจสายตรวจ เรือทุกลำที่จะออกจากท่าจะมีการสุ่มตรวจทุกลำ ถ้าพบเรือลำใดไม่ปฏิบัติการตามกฎปลอดภัย ถ้าผู้โดยสารยังไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ นายเรือจะออกเรือไม่ได้ ถ้านายเรือออกเรือไปก็เท่ากับว่าฝ่าฝืนกฎหมายของเจ้าท่า จะส่งผลต่อการลงโทษทางอาญาและลงโทษทางปกครอง โดยโทษทางอาญาก็มีเปรียบเทียบปรับ และทางปกครองก็คือ ขั้นการถอนใบอนุญาต จึงต้องกำกับให้เรือทุกลำปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเนื่องจากนักท่องเที่ยวทางน้ำมีเป็นจำนวนมาก จึงต้องสร้างมาตรฐานในการบริการ จึงต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้เข้มข้น หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะสร้างความเสียหาย จึงมีชุดปฏิบัติการในการติดกล้องไว้ที่หมวกเพื่อทำการบันทึกไว้ด้วย