นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองว่า เคยได้ยินก่อนหน้านี้แล้ว มาตอนหลังก็ยังไม่เห็นมีการพูดเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่ คิดว่าคงต้องแล้วแต่ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หรือผู้ที่มีอำนาจ ในฐานะที่เป็นนักการเมืองในส่วนของพรรคการเมืองไม่มีความเห็น ต้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่ากันไป เวลานี้คงคาดการณ์อะไรได้ยาก อยู่ที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ อยู่ที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนด เขาจะต้องคิดกัน ส่วนพรรคการเมือง นักการเมืองคงไม่สามารถออกความคิดเห็นได้เท่าไหร่ ก็ต้องพร้อมไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้น เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างการเซ็ตซีโร่และการไม่เซ็ตซีโร่ ส่วนเรื่องของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่กรธ.จะต้องดำเนินการในส่วนนี้นักการเมืองคงไม่ไปเร่งรัดอะไร การทำกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งคงจะติดตามดูความคืบหน้าดูอยู่ห่างๆ อยากให้เป็นเรื่องของผู้ที่มีหน้าที่ ผู้ที่สนใจ ที่ไม่ใช่นักการเมืองช่วยกันดู ในส่วนของนักการเมืองไม่น่าอยู่ในฐานะไปวิจารณ์อะไร และหากมีการเชิญนักการเมืองไปแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่เรื่องที่นักการเมืองจะบอกว่ายินดี หรือไม่ยินดี เมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็อยากให้เป็นเรื่องของนักวิชาการทางด้านรัฐศาสตร์ หรือผู้ที่สนใจการเมือง ช่วยให้ความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ พรรคการเมืองบางพรรคอาจจะสนใจก็ได้ แต่โดยส่วนตัวคิดว่า น่าเป็นเรื่องของผู้ที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง ช่วยกันติดตามจะดีกว่า นายจาตุรนต์ กล่าวถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอดีตกลุ่ม 40 ส.ว.ประกาศจัดตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การที่คนไม่ได้มาจากการเลือกตั้งคิดจะมาตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ดีกว่าที่จะคิดแสวงหาอำนาจหรือวิธีทางที่ไม่ต้องอาศัยเสียงจากประชาชน ไม่มีอะไรที่ต้องตำหนิ ต้องถือว่าเป็นสิทธิของเขา ส่วนการที่ออกมาพูดก่อนที่รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ รวมถึงการระบุอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นนายกฯ ต่อ ตรงนี้ตนไม่เข้าใจจุดประสงค์หรือพูดแล้วมีผลแค่ไหน จะสามารถเปลี่ยนความคิดใครได้แค่ไหนอันนี้คงต้องดูต่อไปซักระยะ