แม้พื้นที่อิทธิพลจะสูญเสีย แถมผู้นำก็ยังถูกเด็ดหัว แกนนำถูกทางการจับกุมเข้าห้องขังไปกันหลายคน รวมไปถึงมวลหมู่สมุนสมาชิกจะแตกกระจัดกระจายกระสานซ่านเซ็น จนใครต่อใครหลายคนพากันโล่งอก ด้วยความสบายใจว่า ขบวนการก่อการร้ายกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส หรือที่หลายคนเรียกว่า ไอซิส นั้น จะสลายตัวปิดฉากขบวนการก่อการร้ายชื่อนี้เป็นแน่ แต่ก็ต้องขอบอกว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิส หาได้หมดฤทธิ์ถึงเพียงนั้นไม่ ทว่า ขบวนการก่อการร้ายกลุ่มดังกล่าว ได้กลับมารวมตัวกันใหม่ได้อีกคำรบแล้ว โดยการรวมตัวข้างต้น ก็เป็นถ้อยแถลงจาก บรรดาบิ๊กสายลับ เหล่าผบ.สำนักข่าวกรอง ทั้งของกองทัพรัฐบาลอิรัก และกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด ที่ออกมาเปิดเผยเชิงสะกิดเตือน เริ่มจาก “พล.ท.ซาอัด อัล-อัลลัก” ซึ่งดำรงตำแหน่ง “ผบ.สำนักงานข่าวกรองแห่งกองทัพอิรัก” หรือ “ไอเอ็มไอ” และเคยทำงานใกล้ชิดกับหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา หรือซีไอเอ ในระหว่างการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายในอิรัก รวมถึงการปราบปรามขบวนไอเอสในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้ออกมาส่งเสียงเพรียกเตือนก่อนหน้าเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไอเอสได้หวนมารวมตัวกันอีกรอบบนแผ่นดินของประเทศอิรัก รวมถึงไปบนดินแดนของประเทศซีเรียด้วย ซึ่งมีพรมแดนคาบเกี่ยวกัน พร้อมกันนี้ ผบ.หน่วยสายลับแห่งกองทัพอิรัก ยังระบุถึงแผนการที่จะขบวนการก่อการร้ายกลุ่มนี้ นำกำลังคนเข้ามาเติมเต็มเป็นมวลหมู่สมาชิกของไอเอสด้วยว่า “พวกเขาใช้ยุทธวิธีทำลายคุกเรือนจำต่างๆ น้อยใหญ่ทั้งในอิรัก และซีเรีย เพื่อให้นักโทษในเรือนจำพวกนี้ออกมาจากเรือนจำ ซึ่งตามการประเมินเบื้องต้นพบว่า สมุนไอเอสที่ถูกกวาดจับไปเป็นนักโทษตามเรือนจำต่างๆ ทั่วอิรัก และซีเรียนั้น มีจำนวนรวมแล้วกว่า 10,000 คน เมื่อบรรดาเครือข่ายของไอเอส แยกย้ายบุกเข้าไปทะลายคุกเหล่านี้ ก็จะทำให้เหล่านักโทษที่สมุนของไอซิส สามารถแหกเรือนจำออกมาได้ กลับมาร่วมขบวนการกับไอเอสกันใหม่ ใช่แต่เท่านั้น ขบวนการไอเอสก็ยังอาจจะได้สมาชิกใหม่ที่เป็นนักโทษเรือนจำด้วยกัน ที่ยังไม่รู้จะไปไหน จัดการกับชีวิตของตนเองอย่างไร ก็จะถูกโน้มน้าวชักจูงให้มาร่วมกับขบวนการไอเอสด้วยอีกโสดหนึ่ง ด้วยประการฉะนี้ จึงมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการทะลายเรือนจำทั้งในอิรักและซีเรียกันอยู่เนืองๆ ท่ามกลางความหละหลวม ดูแลไม่เข้มงวดจากทางการทั้งของอิรักและซีเรียที่กำลังเผชิญหน้ากับมรสุมของปัญหาภายในต่างๆ ณ เวลานี้ ล่าสุด ก็เป็นรายของ “นายลาฮูร์ ตาลาบานี” ซึ่งดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าหน่วยสายลับซานยารี” เทียบได้กับ “ผบ.หน่วยข่าวกรอง” แห่งกองทัพเปชเมอร์กา” อันเป็นกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด พื้นที่ปฏิบัติการคาบเกี่ยวระหว่างภาคเหนือของอิรัก และภาคตะวันออกของซีเรีย ได้ออกมาส่งซิกสะกิดเตือนเช่นกันว่า ขบวนการก่อการร้ายไอเอสได้กลับมารวมกลุ่มกันใหม่อีกแล้ว จนเป็นที่น่าวิตกกังวล โดยนายตาลาบานี ยังระบุด้วยว่า ขบวนการไอเอสซึ่ง ณ เวลานี้ ได้ผู้นำใหม่แทนนายอาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี ที่ถูกหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ ปลิดชีพไป คือ “นายอาบู อิบราฮิม อัล-ฮาเชมี อัล-กูราชี” ซึ่งขบวนการก่อการรร้ายที่มารวมตัวกันใหม่นี้ ก็มีทั้งสมุนไอเอสที่แตกกระจัดกระจายกันไปหลังการพ่ายแพ้ในสงครามก่อการร้ายเมื่อ 2 ปีก่อน และได้พวกนักโทษไอเอส ที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากเรือนจำมาสมทบ ตลอดจนได้พวกมุสลิมซุนหนี่ในอิรัก ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนิกายชีอะฮ์ ซึ่งไม่ลงรอยกัน เพราะนับถือคนละนิกาย มาร่วมขบวนการฯ ซึ่งไอเอสก็ถือได้ว่า เป็นขบวนการก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงในพวกซุนหนี่ ทั้งนี้ ในการชักชวนให้พวกซุนหนี่มาเข้าร่วมกลุ่มก่อการ้าย ทางไอเอสก็อาจฉวยโอกาสที่กำลังเกิดปรากฏการณ์ม็อบชาวซุนหนี่ที่กำลังประท้วงรัฐบาลอิรัก ที่เป็นชีอะฮ์อย่างในเวลานี้ เป็นอาทิ บิ๊กบอสหน่วยสายลับของกองทัพเคิร์ด เผยว่า ถึง ณ ชั่วโมงนี้ ขบวนการไอซิสที่ออกมารวมตัวกันใหม่ มีสมาชิกรวมแล้วราวกว่า 1 หมื่นคน ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น สมาชิกที่เป็นนักรบจีฮัด หรือกองกำลังติดอาวุธ มีจำนวนราว 4,000 – 5,000 คน ขณะที่ ราวอีกกว่า 5,000 คน เป็นเครือข่ายสายงานด้านอื่นๆ ของไอเอส ส่วนพื่นที่ ทางนายตาลาบานี ระบุว่า ก็ใช้พื้นที่ในเขตสุไลมานิยา อาณาบริเวณที่เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนใหญ่น้อยในภูมิภาคเคอร์ดิสถาน ภาคเหนือของอิรัก เป็นพื้นที่สำหรับซ่องสุมและขับเคลื่อนขบวนการก่อการร้ายของทางกลุ่ม โดยเฉพาะในเขตเทือกเขาฮามริน ซึ่งนอกจากมีทิวเขาสลับซับซ้อนแล้ว ก็ยังมีถ้ำต่างๆ เป็นจำนวนมาก เชื่อมประสานกับกลุ่มไอเอสที่เคลื่อนไหวบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำซาบใหญ่และแม่น้ำไทกรีส หัวหน้าหน่วยสายลับซานยารี ถึงกับเอ่ยปากเลยว่า พื้นที่ดังกล่าวจัดได้ว่าเป็น “ฮับ” หรือ “ศูนย์กลาง” ของพวกไอเอสแห่งใหม่กันเลยทีเดียว พร้อมกันนี้ นายตาลาบานี ยังกล่าวด้วยว่า การปราบปรามขบวนไอซิสที่หวนกลับรวมตัวกันครั้งใหม่นี้ มิใช่เรื่องง่ายๆ เพราะทางกลุ่มไม่ได้จัดตั้งกันในแบบ “รัฐอิสลาม” เหมือนอย่างครั้งที่แล้ว ที่มีสถานที่ มีศูนย์กลางที่แน่นอน เช่น ที่เมืองรักกา ในซีเรีย อันเปรียบเสมือนนครหลวงของพวกเขา โดยไอเอสรุ่นใหม่จะใช้พวกถ้ำ และเทือกเขาอันสลับซับซ้อน เป็นพื้นที่กบดาน ซ่องสุม และเคลื่อนไหว ใช่แต่เท่านั้น ไอเอสรุ่นใหม่ก็ยังมีเงินทุนอย่างมหาศาล ซึ่งกำลังสอบสวนถึงแหล่งที่มา โดยเงินทุนดังกล่าว ก็ใช้ไปในการซื้อยานพาหนะ อาวุธยุทโธปกรณ์ ตลอดจนการส่งกำลังบำรุงต่างๆ ถึงขนาดหัวหน้าสายลับของกองทัพเคิร์ดเอ่ยปากด้วยความสะพรึงว่า ไอซิสยุคใหม่เห็นท่าจะแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน และเป็นอันตรายกว่า แม้เมื่อเปรียบเทียบกับขบวนการก่อการร้ายอัล-กออิดะฮ์ที่เคยเขย่าขวัญโลกครั้งอดีตเลยด้วยซ้ำ