ไปรษณีย์ไทยยกระดับการคัดแยกพัสดุ นำเครื่อง Cross Belt Sorter ติดตั้งเพิ่ม ณ ศูนย์ฯหลักสี่ สามารถคัดแยกสิ่งของได้กว่า 6,500,000 ชิ้นต่อเดือน พร้อมลุยงานในปี2563 ตั้งเป้าติดตั้งอีก 6 แห่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพและรับมือปริมาณสิ่งของที่เพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้าติดตั้งเครื่องครบทุกศูนย์ฯทั่วประเทศภายในปี2566 นายกาหลง ทรัพย์สอาด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานระบบปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่าจากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ตลอดปี2562 ที่ผ่านมา ยอดสิ่งของฝากส่งผ่านไปรษณีย์ไทยในปี2562 ทะลุ 3,000 ล้านชิ้นแล้ว นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังได้ติดตั้งเครื่องคัดแยกกล่องพัสดุแบบกล่อง หรือ Cross Belt Sorterที่มีประสิทธิภาพในการคัดแยกสิ่งของได้กว่า 6,500,000 ชิ้นต่อเดือน ณ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ เพื่อรองรับปริมาณงานทั่วประเทศที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2563 สำหรับการติดตั้งเครื่อง Cross Belt Sorter ณ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ นับเป็นเครื่องที่ 2 ต่อจากศูนย์ไปรษณีย์ศรีราชา มีประสิทธิภาพในการคัดแยกสิ่งของได้กว่า 6,500,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งเมื่อรวมศักยภาพของทั้งสองเครื่องแล้ว จะรองรับปริมาณงานได้มากถึง 13,000,000 ชิ้นต่อเดือน และปีหน้าจะติดตั้งเครื่องคัดแยก ณ ศูนย์ไปรษณีย์อีก 7 แห่ง รวมเป็น 9 เครื่อง ซึ่งเมื่อใช้งานอย่างเต็มระบบจะสามารถรองรับปริมาณงานได้ 60,000,000 ชิ้นต่อเดือน ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยมีแผนในการติดตั้งเครื่องคัดแยกตามศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยในปี2563 ที่จะติดตั้งเครื่อง Cross Belt Sorter เพิ่มตามศูนย์ไปรษณีย์อีก 7 แห่ง ณ ศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ ศูนย์ไปรษณีย์นครราชสีมา ศูนย์ไปรษณีย์ลำพูน ศูนย์ไปรษณีย์ทุ่งสง ศูนย์ไปรษณีย์ขอนแก่น ศูนย์ไปรษณีย์พิษณุโลก และศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่เพิ่มอีก 1 เครื่อง ซึ่งยังมีแผนที่จะติดตั้งอย่างต่อเนื่องที่ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ ให้ครบ 18 เครื่อง ภายในปี2566 ที่จะรองรับปริมาณงานกว่า 120 ล้านชิ้นต่อเดือน ส่วนรูปแบบการทำงานของ Cross Belt Sorter นั้น นับว่าเป็นเครื่องคัดแยกสิ่งของที่ทันสมัยที่สุดในโลก เนื่องจากใช้การคัดแยกแบบสายพาน ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและคุณภาพในกระบวนการคัดแยก โดยใช้ระบบสแกนบาร์โค้ดด้วยเครื่องอ่านรหัสไปรษณีย์แบบ OBR (Optical Barcode Recognition) ที่สามารถอ่านรหัสไปรษณีย์ 5 มิติ และการอ่านรหัสไปรษณีย์บนจ่าหน้า รวมทั้งการลำเลียงโดยสายพานอัตโนมัติเพื่อลงสู่ช่องคัดแยกปลายทางก่อนบรรจุลงในอุปกรณ์สำหรับส่งต่อไปยังที่ทำการปลายทางต่อไปในแต่ละพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ทั้งนี้การนำเครื่อง Cross Belt Sorter มาใช้ในช่วงนี้เพื่อรับมือปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น คาดการณ์ว่าจะเติบโตจากปีที่แล้ว 10% สอดรับการสำรวจของ ETDA ที่ระบุว่ามูลค่าตลาดธุรกิจ e-Commerce ปี2561มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี และคาดว่าจากนี้จนถึง2565 e-Commerce ไทยจะเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ22% "ในปี2562 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ของไปรษณีย์ไทย ทั้งเรื่องการยกระดับคุณภาพมาตรฐานบริการ EMS ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น การขยายเวลาให้ บริการ 24 ชั่วโมง 365 วัน แคมเปญ “EMS ท้าส่ง” และล่าสุดได้นำเครื่อง Cross Belt Sorter มาใช้งานที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้โครงข่ายของไปรษณีย์แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในการรองรับการเติบโตของ e-commerce และตอกย้ำความพร้อมการเป็นการเป็นฟันเฟืองหลักด้านโลจิสติกส์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและธุรกิจ e-Commerce ของไทย"นายกาหลง กล่าว