ที่อ.หนองวัวซอ เมียสุดจะทน อยู่กันมา 13 ปี ผัวหึงมากไป บอกเลิกกันหลายครั้ง สุดท้ายทนไม่ไหว ผัวเมาเหล้าขาวกลับมาห้องนอนใช้มีดขู่แต่โดนแย่งเมียจ้วงแทงทะลุปอดผัวดับอนาถ ตร.คุมตัวประกอบคำรับสารภาพ ชาวบ้านสุดจะสงสาร วันนี้ (23 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชวนสันติ จันทคัต รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุผัวเมียแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 1 ต.หมากหญ้า จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.หนองวัวซอ นำกำลังไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบกองเลือดจำนวนมากอยู่ปลายที่นอน ส่วนผู้บาดเจ็บญาตินำส่งโรงพยาบาลหนองวัวซอ ทราบชื่อภายหลังว่านายสิงห์ขร ตะพิมพ์ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้าน ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมบริเวณด้านหลังทะลุปอด เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนมือมีดผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นภรรยาผู้ตายชื่อ น.ส.อารยา บัวติก อายุ 33 ปี ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ โดยให้การว่า ตนแต่งงานอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับผู้ตายมา 13 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นผู้ชายอายุ 10 ขวบ พวกตนมีอาชีพทำนา และรับจ้างทั่วไป ทั้งกรีดยาง ขุดมันสำปะหลัง ผู้ตายมีนิสัยชอบดื่มเหล้าขาวเป็นประจำ ระยะหลังเมื่อดื่มเหล้าจนเมาก็จะหึงหวง ไม่ยอมให้ตนไปพูดคุยหรือสุงสิงกับใคร แม้แต่กับญาติพี่น้อง หากไม่เชื่อฟังผู้ตายก็จะลงไม้ลงมือทำร้าย เมื่อ4-5 เดือนก่อน ถึงขั้นเอามีดไล่ฟันตน ซึ่งเคยเรียกญาติผู้ใหญ่มาคุยกัน ซึ่งผู้ตายรับปากว่าจะไม่ทำอีก ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวานนี้เป็นวันหยุด ช่วงหัวค่ำตนไปนั่งดื่มเบียร์กับญาติพี่น้องบ้านติดกัน 7 คน เบียร์ 10 ขวด ส่วนผู้ตายออกไปทำธุระนอกบ้าน กลับมาบ้านเวลา 20.00 น.และเดินมาตามให้ตนกลับบ้าน และพบมีอาการมึนเมาสุราแล้ว ตนบอกว่าขอล้างถ้วยจานก่อน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ ด่าทอตนและเดินกลับบ้าน เมื่อเสร็จตนก็เดินกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างกันไม่เกิน 20 เมตร เมื่อตนเข้าไปนอนข้างผู้ตาย ผู้ตายได้ใช้เท้าถีบหน้าตน ตนจึงลุกขึ้นมาคว้าโทรศัพท์ไปฟ้องแม่สามี ว่าโดนทำร้ายอีกแล้ว ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ แย่งโทรศัพท์ตนไปปาทิ้ง ตนตกใจดิ้นรนต่อสู้ผลักผู้ตายออก แต่ผู้ตายกลับไปคว้ามีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต ที่ผู้ตายนำไปซ่อนข้างที่นอนออกมาขู่ ตนจึงแย่งมีดแหลมมาได้ ด้วยความโมโหจึงได้แทงผู้ตายด้านหลัง 1 แผล ผู้ตายล้มลงเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ตนจึงวิ่งออกไปเรียกญาติพี่น้อง นำผู้ตายส่งโรงพยาบาลหนองวัวซอแต่สุดท้ายก็เสียชีวิต ตนเองรู้สึกเสียหายใจมาก ตนไม่คิดว่าสามีจะตาย และเป็นห่วงลูกมาก อยากไปกราบขอขมาศพแต่คงไม่มีโอกาส” ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” ต่อมาวันนี้ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.หนองวัวซอ นำตัว น.ส.อารยา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางญาติพี่น้องและชาวบ้าน มายืนมุงดูการทำแผน โดยส่วนมากมาพูดให้กำลัง น.ส.อารยา โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ และควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทางด้านนางนริศรา นามอุตวงษ์ อายุ 52 ปี ป้า น.ส.อารยา เล่าว่า หลานสาวเป็นกำพร้าแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ตนจึงเลี้ยงดูหลานสาวจนแต่งงานกับผู้ตาย ซึ่งทั้งสองคบหากันตั้งแต่เรียนมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ผู้ตายชอบดื่มเหล้าขาว พอเมาก็จะออกอาการหึงหวงเมีย แรกๆ ก็จะพูดห้ามทำให้มีปากเสียงกัน หนักเข้าถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้าย เอามีดไล่ฟัน 2-3 ครั้ง ทั้งที่หลานสาวรักผู้ตายมากไม่เคยนอกใจแม้แต่ครั้งเดียว หลานสาวทนไม่ได้ขอแยกทางและไล่ผู้ตายกลับบ้าน จึงต้องเรียกญาติผู้ใหญ่มาพูดคุยปัญหา สุดท้ายทั้งสองก็คืนดีกัน แต่ผู้ตายยังไม่เลิกนิสัยหึงหวง และมาเกิดเหตุเศร้าสลดในครั้งนี้ ส่วนนายมโน พิมพ์ตะ อายุ 53 ปี พ่อผู้ตาย เปิดเผยว่า ลูกชายและภรรยารักกันมาก หลังฤดูทำนา ก็จะมารับจ้างกรีดยางที่สวนยางของตน จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไม่เคยห่างกันเลย ไปเที่ยวดูหมอลำก็ไปด้วยกัน แต่ลูกชายเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาวทุกวัน จนเข้าขั้นขาดเหล้าไม่ได้ หากทะเลาะมีปากเสียงกัน ลูกสะใภ้ก็โทรศัพท์มาหาแม่สามี ไม่นานก็จะคืนดีกันเป็นเช่นนี้มานานแล้ว จนญาติพี่น้องไม่อยากไปเกี่ยวข้อง เพราะถือว่าเป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะกัน เดี๋ยวก็คืนดีกันเอง แต่มาคราวนี้หนักหนา จนถึงขั้นเสียชีวิต จึงรู้สึกตกใจและเสียใจ และลูกชายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตร.นำตัวน.ส.อารยาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป