ตร.มาตรการเข้มพร้อมดูแลความปลอดภัย “ประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชน”เป็นของขวัญเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ วันที่ 23 ธ.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าเนื่องในโอกาสวันคริสต์มาส ประจำปี 2562 และวันขึ้นปีใหม่ 2563 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2563 พี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน หรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และร่วมกิจกรรมงานรื่นเริงเฉลิมฉลองการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือจัดงานเคาท์ดาวน์ (Countdown) เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางสัญจร การใช้รถใช้ถนน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของปัญหาและห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงสั่งการและกำชับไปยังทุกหน่วยในสังกัดให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเข้มงวด และอำนวยความสะดวกด้านจราจรอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้บูรณาการขอความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานประกอบการ และห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลอง โดยกำชับให้จัดกำลังสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และสายตรวจเดินเท้า ลงพื้นที่จุดเสี่ยงต่าง ๆ สถานประกอบการที่มีความเสี่ยง เช่น ธนาคาร, ร้านทอง, ร้านอัญมณี, ร้านสะดวกซื้อ และบริเวณพื้นที่เปลี่ยวที่มีตู้กดเงิน (ATM) รวมทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานที่พักผู้โดยสาร สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ แก๊ส และหมู่บ้านจัดสรรที่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย เป็นต้น อีกทั้งให้เฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามบุคคล กลุ่มบุคคล ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เพศ และยาเสพติด พลตำรวจเอก จักรทิพย์ กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านจราจร สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจเส้นทางต่าง ๆ และจัดเตรียมเส้นทางสำรองเพื่อรองรับการจราจรที่หนาแน่น โดยให้มีการประชาสัมพันธ์เส้นทางอย่างต่อเนื่อง และให้มีการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดอันตราย หรือจุดที่มีอุบัติเหตุขึ้นอยู่บ่อยครั้งและจัดตั้งหน่วยบริการประชาชน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ จัดเตรียมรถยก รถลาก รถกู้ภัย ให้สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและสามารถเปิดเส้นทางการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกได้อย่างรวดเร็ว โดยขอให้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และกองสารนิเทศ ประชาสัมพันธ์ไปยังสื่อมวลชนทุกแขนง และขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ ในการป้องกันอาชญากรรมการประทุษร้ายต่อทรัพย์ หรืออันตรายที่จะเกิดในช่วงเทศกาลสำคัญ ดังนี้ 1. ประชาสัมพันธ์ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2555 เรื่อง กำหนดสถานที่ หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บนทาง พุทธศักราช 2555 ซึ่งกำหนดห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่ หรือในขณะโดยสารอยู่ในรถ หรือบนรถ และประกาศสำนักนายกรรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 เรื่อง กำหนดสถานที่ หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พุทธศักราช 2558 ซึ่งกำหนดห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก และหากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 42 ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนห้ามยิงปืนเพื่อเฉลิมฉลอง และกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดจากกรณีดังกล่าว และในเรื่องของการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน โดยไม่มีเหตุอันควรอย่างเด็ดขาด หากพบการกระทำความผิด ให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเฉียบขาด 3. ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน อย่าละเลย หรือปล่อยให้ผู้สูงอายุ และเด็ก อยู่บ้านเพียงลำพัง เนื่องจากอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาฉวยโอกาสเพื่อสร้างสถานการณ์ใช้อุบายแอบอ้างในรูปแบบต่าง ๆ 4. ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน หรือท่องเที่ยว ไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับ หรือของมีค่า หรือวางทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถอันเป็นเหตุจูงใจให้การประทุษร้ายต่อทรัพย์ รวมทั้งอย่ารับอาหาร หรือเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า หรือไม่รู้จัก เพื่อระมัดระวังการถูกมอมเมายาปลดทรัพย์ ในส่วนของร้านค้าให้ระมัดระวังการใช้ธนบัตรปลอม 5. ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการโจรกรรมเงินจากบัตรเอทีเอ็ม (Skimmer) โดยให้หลีกเลี่ยงการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่อยู่บริเวณพื้นที่เปลี่ยว หรือไม่มีแสงสว่าง และไม่มีกล้องวงจรปิด พลตำรวจเอก จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการดำเนินโครงการ “ประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ” ในห้วงระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 2 มกราคม 2563 (ระยะเวลา 10 วัน) เพื่อเสริมการปฏิบัติในการป้องกันอาชญากรรม การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่พักอาศัย และสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด รวมทั้งเหตุ บุคคลและวัตถุต้องสงสัย หรือต้องการขอความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ สามารถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง หรือทางหมายเลขสายด่วน 191 และ 1599 รวมทั้งแอพพลิเคชั่น police i lert u หากต้องการทราบรายละเอียดเส้นทางการจราจรเพิ่มเติมสามารถสอบถามมายังหมายเลขสายด่วนจราจร 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง