“กฟผ.”เสนอนำเข้า LNG รอบใหม่ใช้กับโรงไฟฟ้าพระนครใต้ "กุลิศ"ไฟเขียวเต็มพิกัด พร้อมให้ศึกษาแผนนำเข้าสัญญาระยะกลาง-ยาว หลังพบการนำเข้า SPOT ลดค่าไฟฟ้าได้อย่างน้อย 0.1 สตางค์ต่อหน่วย นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ(กฟผ.) เปิดเผยว่า จากที่พนักงาน กฟผ.มีความกังวลใจจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 16 ธั.ค.62 ยกเลิกนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG ) โดย กฟผ.ในปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี และเห็นชอบให้ กฟผ.นำเข้าไม่เกิน 200,000 ตันในรูปแบบราคาตลาดจร (SPOT)นั้น ขอชี้แจงว่ากระทรวงพลังงานยังสนับสนุนให้ กฟผ.เป็นผู้นำเข้า (Shipper)รายใหม่ โดยเมื่อให้ทำแผนการนำเข้าในอนาคตเบื้องต้น 3 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร โดย กฟผ.เสนอว่าการนำเข้ารอบต่อไปปี 2563-2565 ขอนำเข้ามาใช้ในโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ทดแทนระยะที่ 1 กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ ซึ่งเห็นด้วยและเร่งให้ กฟผ.สรุป และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ กฟผ.เดือนม.ค.63 และขออนุมัติจากคณะบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)และ กพช.ต่อไป ซึ่งแผนการนำเข้าในอนาคต ของ กฟผ.ให้ศึกษารวมถึงเรื่องการแก้ไขอุปสรรคเช่น แก้กฎหมาย กฟผ.ให้เป็นผู้จำหน่าย LNG ได้ด้วย ทั้งนี้ความจำเป็นที่ต้องยกเลิกการนำเข้า LNG 1.5 ล้านตันต่อปี สัญญา 8 ปี เนื่องจากว่ากฎหมายจัดซื้อจัดจ้างไม่เอื้อให้จองซื้อระยะยาว โดยยังไม่ทำสัญญาเพื่อนำเข้า เรื่องนี้จะถูกสอบได้ ในขณะนี้ยังหนุน กฟผ.นำเข้าเพื่อใช้เอง หากจะคงราคาเดิมกับปิโตรนาสไว้ก็ให้คุยกัน เพื่อนำเข้าล็อตใหม่ๆในอนาคต ซึ่ง กฟผ.อาจนำเข้าลักษณะ Medium Term หรือ Long Term ก็ได้โดยให้ศึกษาและเสนอคณะกรรมการมา โดย กฟผ.ยืนยันว่าสามารถนำเข้า LNG และจะสามารถทำให้ค่าไฟฟ้าของประเทศถูกลง เนื่องจากมีต้นทุนต่ำลง และยังเป็นการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า LNG (LNG HUB) ต่อไป โดยในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ กฟผ.จะนำเข้า LNG ล็อตแรกในรูปแบบ Spot ปริมาณ 65,000 ตัน มาถึงท่าเทียบเรือมาบตาพุด จ.ระยอง และล็อต 2 อีก 65,000 ตันในเดือนเม.ย.63 เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5 จ.ฉะเชิงเทรา และโรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 พระนครศรีอยุธยาของ กฟผ.โดยได้สั่งการให้ กฟผ.เร่งจัดทำแผนประเมินผลการนำเข้า LNG ล็อตแรก เพื่อนำมาแสดงให้ภาครัฐเห็นถึงผลของนโยบายที่ กฟผ.สามารถเปิดประมูลจัดหา LNG ได้ในราคาต่ำอยู่ที่ 5.32 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งพบว่าจากการคำนวณต้นทุนผลิตไฟฟ้าเบื้องต้นจะช่วยให้ต้นทุนถูกลงประมาณ 0.1 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับนโยบายด้านราคานำเข้า LNG ในอนาคตโดย Shipper ทุกรายนั้น เบื้องต้น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ได้ให้นโยบายว่า เพื่อให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำที่สุด LNG ที่นำเข้าของทุกราย กฟผ.ควรรวมอยู่ในสูตรโครงสร้างการคำนวนราคาก๊าซฯของประเทศที่เป็นสูตรราคาก๊าซเฉลี่ยรวม หรือ Pool Gas เพื่อเฉลี่ยให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศในอนาคตถูกลง ซึ่งจะนำมาเฉลี่ยกับก๊าซ ของ ปตท.ทั้งจากอ่าวไทย,เมียนมา และ LNG “การประชุมคณะกรรมการ กฟผ.วันที่ 26 ธ.ค.นี้จะพิจารณาความคืบหน้าเรื่องสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติระหว่าง ปตท.และ กฟผ.หรือ สัญญา Global DCQ ซึ่งเป็นสัญญาหลักเพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ.เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงก๊าซฯ และมีความยืดหยุ่นในการจัดหาเชื้อเพลิง ก๊าซฯโดยเสรีที่ไม่มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า” ทั้งนี้หลังจากการประชุม กบง.เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 ได้รับทราบความก้าวหน้าของการจัดทำสัญญา DCQ ดังกล่าว โดยสั่งการให้ ปตท.และ กฟผ.ไปเจรจารายละเอียดบางประเด็นให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการลงนามสัญญา Global DCQ ได้ภายในปีนี้ จากนั้นขั้นตอนต่อไปจะเป็นกระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการ กฟผ.,อัยการสูงสุด,กบง.และนำเสนอ กพช.ต่อไป