เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 20 ธ.ค.62 ร.ต.อ.ขจรเดช ปทุมชาติ รอง สว.(สอบสวน)สน.สำราญราษฎร์ ได้รับแจ้งเหตุมียิงกันตาย ภายในห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล "หงษ์ทองอาหลั่ยยนต์" เลขที่ 130 และ 132 ถนนหลวง แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ,พ.ต.อ.สรรเสริญ ใช้สถิต และ พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ. อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชฯ รพ.ตร. และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ปลูกติดกัน 2 คูหา สูง 3 ชั้นและมีดาดฟ้าเปิดเป็นร้านขายอะไหล่รถยนต์หลายยี่ห้อ บริเวณชั้นล่างที่พื้นติดโต๊ะทำงานพบศพนายณัฐชัย ศิริหงษ์ทอง อายุ 35 ปี สวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงขมับซ้ายทะลุขวาใกล้ๆ กันพบศพนายวศณัช ศิริหงษ์ทอง อายุ 29 ปี สวมเสื้อเชิตแขนยาวสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีแผลถูกยิงขมับซ้ายทะลุขวา และในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอกตกอยู่ และปืนยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม.ในแม็กกาซีนเหลือกระสุน 4 นัด ขณะเดียวกันสามารถควบคุมตัวนายภาณุ ศิริหงษ์ทอง อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตคนร้ายที่ก่อเหตุไว้ได้ในที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนพยานซึ่งเป็นคนส่งของให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมาส่งของที่ร้านดังกล่าว เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในเห็นพี่น้องกำลังทะเลาะกันเสียงดัง พอจับใจความได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องเงิน และเห็นปืนวางไว้ที่โต๊ะ เมื่อวางบิลเสร็จจึงรีบออกมาทันทีจนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ด้าน พ.ต.อ. อิทธิพล เปิดเผยว่า เบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายคนโต มักทะเลาะกับนายณัฐชัย น้องคนที่ 3 บ่อยครั้ง กระทั่งเกิดเหตุ นายภาณุ ,นายณัฐชัย และนายวศณัช อยู่ในร้าน ก็เกิดมีปากเสียงขัดแย้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ ซึ่งทั้ง 3 คนจะช่วยกันดูแลร้าน ส่วนคนที่ 2 เป็นหญิงแต่งงานออกไปแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ฆ่าคนตายโดยเจตนา" นำตัวสอบส่วนต่อไป รายงานข่าว จากการสอบสวน พนักงานของร้าน ให้การว่า นายภาณุ ศิริหงษ์ทอง อายุ 44 ปี พี่ชายคนโต มีปัญหากับ นายณัฐชัย ศิริหงษ์ทอง อายุ 35 ปี น้องคนที่ 3 เวลาอยู่ในร้านจะไม่ค่อยเห็นพูดคุยกัน ยกเว้นเรื่องงานที่ทำร่วมกันเท่านั้น ซึ่งจะโต้เถียงกันและมีเรื่องผิดใจกันบ่อยครั้ง เป็นแบบนี้ตลอดที่มาทำงานหลายสิบปี ส่วนนายวศณัช ศิริหงษ์ทอง อายุ 29 ปี น้องคนเล็ก พูดคุยกับนายภาณุ ได้ปกติ แต่จะสนิทกับนายณัฐชัย มากกว่า โดยนายภาณุและนายวศณัช จะมีหน้าที่ดูแลหน้าร้านขายอะไหล่ด้วยกัน ส่วนนายณัฐชัย จะดูแลเกี่ยวกับเรื่องประกันต่างๆรถยนต์ของลูกค้า โดยทั้ง 3 คน ไม่ได้พักที่นี้ต่างคนต่างเดินทางมา ซึ่งพักที่บ้านของแต่ละคนเอง กระทั่งก่อนเกิดเหตุ พ่อและแม่ของทั้ง 3 คน เข้ามาดูร้านตามปกติ และออกจากร้านไปประมาณ 15 นาที นายภาณุ ทะเลาะกับ นายณัฐชัย จากนั้น นายภาณุ จึงยิงปืนใส่น้องชายทั้งคู่ ด้านของการสอบสวน นายภาณุ ยังไม่พูดหรือเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางพนักงานสอบสวน มีประจักษ์พยานเป็นลูกจ้างในร้านที่เห็นเหตุการณ์ เตรียมนำตัวฝากขังที่ศาลวันพรุ่งนี้ต่อไป//