เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 62 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตรโสภากุล และ พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ รอง สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.กรพงศ์ วงษาลังการ รอง สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกับ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ปปท. พร้อมกำลังได้ร่วมกัน สืบสวนจับกุมนายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 58 ปี อดีตปลัดภอ ตามหมายจับของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ จ.21/2562 ลงวันที่ 21 พ.ย.2562 โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือ กรอกข้อความลงในเอกสารฯ ” ได้ที่บริเวณ ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย นายสมปอง (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ตามหมายจับของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ จ.23/2562 ลงวันที่ 21 พ.ย.2562 โดยกล่าวหาว่า “ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสารฯ ” ได้ที่หน้าบ้านไม่มีเลขที่ ริมคลองหนึ่ง ม.3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ อยู่ระหว่างหลบหนี จะเร่งดำเนินการติดตามตัวดำเนินคดีต่อไป พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. เผยว่า ตำรวจกองปราบ ได้ร่วมกับ ป.ป.ท. ดําเนินการสืบสวนกลุ่มบุคคลต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและได้ทําบัตรประชาชน ปลอมสวมสิทธิ์เป็นประชาชนของคนไทย โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ช่วยดําเนินการ กองปราบปราม ได้ให้ความสําคัญกับคดี หลอกสวมบัตรประชาชน ก่อนหน้านี้ เมื่อ ปี พ.ศ.2559 ได้เคยจับมาแล้ว 22 ราย และในคดีนี้ พฤติการณ์ เมื่อปี 2558 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ตำรวจกองปราบปราม ได้รับการร้องเรียนว่ามีบุคคลต่างด้าวทำบัตรประชาชนสวมสิทธิ์เป็นคนไทยที่เสียชีวิตแล้วแต่ไม่ได้มีแจ้งการตาย หรือสูญหาย โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ช่วยเหลือในการดำเนินการ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. กล่าวว่า ได้ร่วมกับกองปราบปราม ได้ลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าในพื้นที่ จ.หนองคาย มีขบวนการทำบัตรประชาชนปลอมสวมสิทธิ์เป็นคนไทยจริง โดยกระทำกันเป็นขบวนการ เริ่มจากหาข้อมูลบุคคลที่เสียชีวิตแล้วแต่ไม่ได้มีการแจ้งการตาย ต่อนายทะเบียน หรือบุคคลที่สูญหายแต่ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียน จากนั้นจะมีกลุ่มนายหน้าติดต่อกับบุคคลต่างด้าวที่ต้องการมีบัตรประชาชนคนไทย เพื่อเข้ามาสวมสิทธิ์ทำบัตรประชาชน เสนอค่าดำเนินการรายละ 150,000 บาท ค่าดำเนินการขอรับเป็นเงินสด เมื่อมีการตกลงกันแล้วกลุ่มผู้สนับสนุนซึ่งเป็นคนไทยจะทำการย้ายที่อยู่บุคคลที่ไม่ได้มีการแจ้งการตาย หรือสูญหาย เข้ามาในทะเบียนบ้านของตนเองเพื่อจะได้รับรองการเป็นเครือญาติซึ่งจะต้องอยู่ภายในพื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อให้อยู่ในเขตรับผิดชอบของ นายสมชาย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นข้าราชการในพื้นที่จากนั้นนาย สมชาย ก็จะดำเนินการออกบัตรประจำตัวประชาชนให้กับบุคคลต่างด้าวโดยการสวมแทนคนตายหรือคนสูญหาย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา กล่าวต่ออีกว่า จากการสืบสวนทราบว่า นอกจากข้าราชการคนดังกล่าว และยังมีเจ้าหน้าที่รัฐอีกรายที่ร่วมขบวนการ แต่ได้หลบหนีไปแล้ว โดยมีกรณีการถูกดำเนินคดีรูปแบบดังกล่าวนี้ มาแล้วจำนวน 19 ราย ต่อมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.สังคม จ.หนองคาย และนำไปสู่การขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 เพื่อขออนุมัติหมายจับกลุ่มผู้กระทำความผิดจำนวน 9 ราย หลังจากมีการออกหมายจับ กลุ่มผู้กระทำผิดได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแล้วจำนวน 2 ราย ยังคงหลบหนี จำนวน 7 ราย บุคคลที่ได้ออกหมายจับแยกเป็นกลุ่มดังนี้ 1.กลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 2 ราย ทำหน้าที่ออกบัตรประจำตัวประชาชน 2.กลุ่มผู้สนับสนุน จำนวน 4 ราย รับรองที่อยู่ในพื้นที่ 3.กลุ่มคนต่างชาติ จำนวน 3 ราย ผู้สวมบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย เพื่อต้องการสัญชาติไทยเพื่อทำธุรกิจภายในประเทศไทย ทั้งนี้เชื่อว่ายังมีกลุ่มคนต่างด้าวซึ่งสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทยและอาจมีพฤติกรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดกระจายอยู่ทั่วประเทศจะได้ขยายผลหากลุ่มดังกล่าวต่อไป นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สังคม จ.หนองคาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป