พท.แฉส่อทุจริตเลือกตั้งซ่อมขอนแก่นโค้งสุดท้าย ตามบี้กกต.ตรวจสอบฝ่ายปกครองเล็งรวบรวมหลักฐานเอาผิดทางกม. เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการ และส.ส.กทม. พรรคพท. และนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. และประธานวิปฝ่ายค้าน ร่วมแถลงถึงสถานการณ์การเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น โดย น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น ในช่วงโค้งสุดท้าย ผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรคได้รับทราบข้อมูลว่า มีเหตุการณ์ที่เชื่อได้ว่าไม่ถูกต้อง และอาจเข้าข่ายทุจริตการเลือกตั้ง โดยเฉพาะข้าราชการฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง โดยใช้เครือข่ายผู้นำชุมชน พรรคพท.จึงอยากเรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้ปราศจากอำนาจรัฐ ให้พี่น้องประชาชนได้ใช้สิทธิของเขาอย่างเต็มที่ ขอเรียกร้องให้ กกต. ลงไปกำกับดูแลอย่างละเอียด และเข้มข้น เราเชื่อว่า กกต. เป็นกลาง และปฏิบัติกับทุกพรรคอย่างเท่าเทียม เพราะหากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ข้าราชการที่วางตั้งไม่เป็นกลางถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ด้านนายสุทิน กล่าวว่า พฤติกรรมที่พบขณะนี้พบ 2-3 รูปแบบ คือ จ่ายเงินแล้วรอบสองรอบ และเชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลือจะจัดรอบใหญ่ เขตไหนที่ผู้สมัครเราเสียงดี จะมีการเก็บบัตรประชาชนไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนไปใช้สิทธิไม่ได้ ซึ่งครั้งนี้ ข้าราชการระดับสูงใช้กลไกผู้นำชุมนทำ ต่อมา คือมีการใช้ชื่อผี หรือชื่อคนที่เสียชีวิตแล้วโผล่เข้ามามีชื่อในการลงคะแนน หากผู้สื่อข่าวไปหาข่าวเรื่องนี้ตนเชื่อว่าจะพบ ก็ขอกกต.อย่าเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ อย่างไรก็ตาม กระบวนการการใช้ข้าราชการทั้งบังคับ และต่อรองตำแหน่งให้ว่าถ้าบรรลุผล เป็นไปตามเป้าจะได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น ดีขึ้น ส่วนผู้นำชุมชนจะได้รับการตอบแทนเป็นเม็ดเงิน เรื่องนี้กำลังเข้มข้น มีการจ่ายเงินแบบไม่อาย เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง และความมั่นคง ได้สนธิกำลังกันอย่างน่าชื่นชมมาก ซึ่งถ้าสนธิกำลังกันแบบนี้เพื่อช่วยเหลือ หรือแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนน่าจะดี ทั้งนี้ เรากำลังรวมรวมหลักฐาน ขณะที่นายสมพงษ์ กล่าวว่า การกดดันเจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรเกิดขึ้น ขอวิงวอน กกต. ให้สอดส่องดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองคลองธรรม เพราะหากผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่ถูกต้องตจามครรลองครองธรรมจะทำให้ประเทศชาตอเสียหาย ทั้งนี้ หากพิสูจน์ได้ และมีหลักฐาน จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป