สรรพสามิตโต้พรรคเพื่อชาติย้ำไม่เคยคิดเคยเก็บภาษีผ้าอนามัย ชี้ไม่เข้าข่ายสินค้าฟุ่มเฟือย สวนกลับคิดได้อย่างไร จากกรณีที่ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและเก็บภาษีในอัตราสูง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัย ไม่เคยมีอยู่ในพิกัดภาษี และตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ไม่เคยได้รับรายงานสักครั้งว่ามีเจ้าหน้าที่ไปตรวจจับโรงงานผ้าอนามัยเสียภาษีไม่ถูกต้อง โดยปัจจุบันผ้าอนามัยเสียแค่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่านั้น ไม่ได้มีการเสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย หรือ มีเพดานการจัดเก็บภาษี 40% ตามที่ปรากฏเป็นข่าว สำหรับสินค้าผ้าอนามัย ไม่ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็น เป็นสินค้าที่สุภาพสตรีจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นในนิยามการเสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยคือ ถ้าไม่มีใช้ก็ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าส่งผลกระทบก็ให้ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ฟุ่มเฟือย “ต้องถามว่า ผ้าอนามัยไม่ใช้ได้ไหม ถ้าไม่ใช้ไม่ได้แล้วจะมันฟุ่มเฟือยได้อย่างไร ที่ผ่านมาไม่มีในพิกัดภาษีผ้าอนามัย ประชาชนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเดียว เหมือนซื้อสินค้าอื่นๆ อยากจะรู้ว่า ข่าวนี้ใครคิด คิดได้อย่างไร ถ้าคนอ่านแล้วเชื่อก็บ้ากันไปใหญ่แล้ว”