วันที่ 16 ธ.ค.62 ณ ห้องประชุม People บริเวณ Co-Working Space อาคาร Central Tower ชั้น 9 กรุงเทพมหานคร จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงาน นางสุทัศนี สืบวงศ์แพทย์ ประธานมูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงาน และบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหารบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนผลิตภาพแรงงาน พัฒนาผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน ให้มีความเข้มแข็ง พร้อมสนับสนุนงบประมาณสร้างโรงล้างโรงแพ็คผักให้วิสาหกิจชุมชนปันบุญกว่า 1.59 ล้านบาท นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังจากลงนามความร่วมมือดังกล่าวว่า การบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงาน และบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ใช้แนวทางประชารัฐ ซึ่งหม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้การพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่แรงงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และในความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบกิจการ วิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งและเพิ่มศักยภาพในการประกอบกิจการ รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจชุมชน โดยบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ให้การสนับสนุนงบประมาณให้แก่วิสาหกิจชุมชนปันบุญ เป็นเงิน 1,598,174.38 บาท ผ่านมูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อนำไปก่อสร้างโรงล้างโรงแพ็คผักวิสาหกิจ และขยายผลการดำเนินงานไปยังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ ต่อไป นายธวัช กล่าวต่อไปว่า วิสาหกิจชุมชนปันบุญ ตั้งอยู่ที่ 98 หมู่ 2 บ้านดอนแคน ตำบลฆ้องชัยพัฒนา อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ มีสมาชิกจำนวน 35 คน เข้าร่วมโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานตั้งแต่ปี 2561 ได้รับคำแนะนำจากทีมงานเพิ่มผลิตภาพในด้านการบริหารจัดการกลุ่มและการลดต้นทุนการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of thing) หรือระบบ IOT มาประยุกต์ ด้วยการดัดแปลงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้กับภาคเกษตรกรรม เช่น ระบบควบคุมการเปิด-ปิดน้ำรดผักในแปลงเพาะปลูก ช่วยควบคุมปริมาณน้ำและช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ก้าวสู่การเป็นเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) พร้อมอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกในหลักสูตรควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าพื้นฐานผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันประธานกลุ่มได้มอบที่ดินให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปันบุญ เพื่อสร้างโรงล้างโรงแพ็คผักวิสาหกิจ ให้สมาชิกใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปันบุญมีความเข้มแข็ง สมาชิกร่วมกันปลูกผักออแกนิก ผักที่ปลอดสารพิษ 100 % ส่งจำหน่ายในท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น แม็คโคร โลตัส เป็นต้น นอกจากนี้ยังส่งจำหน่ายตามโรงพยาบาลภายในจังหวัดอีกด้วย “สวนปัญบุญเกษตรอินทรีย์วิถีสุขภาพ” ได้รับการประชาสัมพันธ์จากจังหวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรและมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกผักปลอดสารพิษ ภายใต้แนวคิด “กาฬสินธุ์กรีนมาเก็ต” วิสาหกิจชุมชนปันบุญจึงได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดเป็นอย่างดี โดยมีโรงเรือนในการเพาะปลูกผักทั้งโรงเรือนแบบเปิดและแบบปิด รวม 4 โรงเรือน มีรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วเฉลี่ย 13,500 บาทต่อ 1 โรงเรือน และจากการให้คำแนะนำของทีมงานเพิ่มผลิตภาพแรงงานของ กพร. จึงช่วยลดระยะเวลาในการเพาะปลูกจาก 45 วัน ลดลงเหลือเพียง 25 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตส่งจำหน่ายได้แล้ว “การร่วมกันทั้ง 3 หน่วยงาน เป็นการเพิ่มโอกาสการเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิต การขยายตลาดและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่วิสาหกิจปันบุญ เป็นตัวอย่างการดำเนินงานให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอื่น หรือผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีลักษณะการดำเนินงานคล้ายกัน ซึ่งคาดว่าจะขยายแนวคิดนี้ไปยังวิสาหกิจอื่นต่อไป” อธิบดี กพร.กล่าว