หุ้น BAM ทำการซื้อขายวันแรกใน ตลท.เปิดเทรดที่ราคา 18.40 บาท เพิ่มขิ้น 0.90 บาท หรือ 5.14% จากราคาขาย IPO ที่ 17.50 บาทต่อหุ้น นางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)หรือ BAM เปิดเผยว่า พอใจที่นักลงทุนให้การตอบรับหุ้น BAM ทำให้ราคาเปิดเทรดวันแรกสูงกว่าราคา IPO แม้ภาวะตลาดหุ้นจะผันผวนก็ตาม และไม่กังวลว่าราคาหุ้นจะปรับลงหลังหมด Green Shoe Option (การซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน)เพราะ BAM เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดีเติบโตได้ทั้งในภาวะเศรษฐกิจขาขึ้นและขาลง โดยมีอัตราการเติบโตทุกปี มีกำไรต่อเนื่องและมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และเตรียมจ่ายปันผลเดือนเม.ย.63 ขณะเดียวกันตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 18,000 ล้านบาท และจะขยายสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 7-10% ต่อปี โดยจะซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) มาบริหารมูลค่าไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท "ภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนขณะนี้มีสาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศ ดังนั้นนักลงทุนควรพิจารณาศึกษาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแต่ละบริษัทอย่างรอบคอบ สำหรับผลประกอบการงวด 9เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.61 และ 62 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,311 ล้านบาท และ 4,882 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้น 47.5%" ทั้งนี้ BAM ได้จัดตั้งขึ้นหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่ก่อให้เกิดหนี้เสียสูงถึง 42% ของหนี้ในระบบสถาบันการเงินของประเทศ ด้วยจุดประสงค์เพื่อทําหน้าที่บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย(NPAs) ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จํากัด (มหาชน)ซึ่งต่อมา BAM ได้ขยายขอบเขตการดําเนินธุรกิจให้ครอบคลุม NPLs และ NPAs ของสถาบันการเงินอื่นด้วย จนถึงปัจจุจบัน BAM มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาแล้วกว่า 20 ปี และเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด มีเครือข่ายครอบคลุมทุกภูมิภาค สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นก้าวที่สำคัญของ BAM เพราะจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินในการขยายธุรกิจได้มากขึ้นในอนาคต และลดภาระหนี้ของบริษัท ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานให้เทียบเท่าบริษัทเอกชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกันบยังตอบสนองต่อสถานการณ์และสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถระดมทุนและเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆเพื่อให้ BAM คงความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์และเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับระบบสถาบันการเงินและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป