นายซาเล็ม โอไบดอลลา รองประธานอวุโส ฝ่ายบริการจัดการเชิงพาณิชย์ในทวีปอเมริกา ของสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า สายการบินเอมิเรตส์เปิดตัวเส้นทางบินใหม่ด้วยบริการบินทุกวันจากดูไบสู่เม็กซิโกซิตี้ ผ่าน บาร์เซโลน่า โดยเครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 700-200LR เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเชิงพาณิชย์ให้แก่สองประเทศ ซึ่ง โบอิ้ง 700-200LR ประกอบไปด้วยที่นั่งชั้นธุรกิจ 38 ที่นั่งแบบ 2-2-2 และ ที่นั่งชั้นประหยัดอีก 264 ที่นั่ง โดยที่นั่งชั้นธุรกิจจะมีดีไซน์และรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ของเอมิเรตส์ในการปรับนอนได้ยาวตรง 180 องศา แต่ตัวที่นั่งจะกว้างขึ้นอีกถึงสองนิ้ว เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากบยิ่งขึ้นตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ในส่วนของที่นั่งชั้นธุรกิจจะมีห้องรับรอง ให้ผู้โดยสารได้ออกมาพบปะสังสรรค์ ส่วนในชั้นประหยัดมีการปรับโทนสีให้เป็นสีเทาอ่อนและสีฟ้าทั้งหมด ตัวที่นั่งยังออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่มาพร้อมกับพนักพิงศีรษะหนังแท้ที่มีแผงด้านข้างที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับได้ตามแนวตั้งเพื่อการรองรับที่ดีที่สุด สำหรับเครื่องบินลำนี้ยังสามารถรองรับการขนส่งสินค้าได้มากถึง 14 ตัน ซึ่งเป็นการเปิดตลาดในการส่งออกให้แก่สินค้าจากเม็กซิโก อาทิ อะโวคาโด ผลไม้เบอร์รี่ชนิดต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์แบบสดอื่น ๆ อีกมากมาย โดยทางเอมิเรตส์ สกายคาร์โก ได้เปิดให้บริการนำเข้าและส่งออกจากเม็กซิโกซิตี้มาตั้งแต่ปี 2557 และเมื่อเมษายน 2561 ที่ผ่านมาได้มีการขนส่งสินค้ามากกว่า 33,000 ตัน ในเส้นทางดังกล่าวอีกด้วย ทั้งนี้ นายซาเล็ม กล่าวว่า เม็กซิโกซิตี้ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโกและเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในอเมริกาเหนือ เมืองหลวงของเม็กซิโกนี้ เป็นอีกเมืองที่มีความสำคัญมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมหรือศูนย์กลางย่านธุรกิจในอเมริกา ซึ่งวัดจากค่า จีดีพีที่คิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของจีดีพีทั้งหมดของประเทศ ตั้งอยู่ในหุบเขาเม็กซิโกที่ระดับความสูง 2,240 เมตร เป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ ซึ่งรู้จักกันในนามโซคาโล หนึ่งในมรดกโลกที่ได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโก อีกทั้งยังเป็นเมืองสำคัญในการค้าขายและอุตสาหกรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ เวชภัณฑ์ และอุตสาหกรรมยา ขณะที่ทางด้าน ดูไบ เองยังเป็นสถานที่ที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าระดับเวิลด์คลาส สถาปัตยกรรมผสมผสาน และแลนมาร์คสำคัญต่าง ๆ รวมไปถึงตึกที่สูงที่สุดในโลก อย่าง เบิร์จคาลิฟา และห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง เดอะ ดูไบ มอลล์ อีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับตัวเมืองและแสงอาทิตย์ได้ตลอดทั้งปี รวมถึงวิวทะเลสุดตระการตา และร้านอาหารมากมายให้เลือกสรร รวมถึงร้านอาหารมิชลินสตาร์ อย่างไรก็ตามสำหรับบุคคลสัญชาติ เม็กซิโก สเปน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่าในการเดินทางไปยังสามประเทศนี้ และเที่ยงบินรายวันใหม่ของสายการบินเอมิเรตส์ช่วยให้สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเหล่านี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสายการบินเอมิเรตส์เที่ยวบินที่ EK255 จะออกเดินทางจากดูไบเวลา 3.30 น. ในเวลาท้องถิ่น และจะเดินทางถึงบาร์เซโลน่าเวลา 8.00 น. ก่อนที่จะออกเดินทางอีกทีในเวลา 9.55 น. เพื่อไปยังเม็กซิโกซิตี้และจะเดินทางถึง 16.15 น. ในวันเดียวกัน โดยเที่ยวบินขากลับเที่ยวบินที่ EK256 จะออกเดินทางจากเม็กซิโกซิตี้ เวลา 19.40 น. ในเวลาท้องถิ่น และจะเดินทางถึงบาร์เซโลน่าเวลา 13.25 ในวันถัดไป โดยเที่ยวบินที่ EK256 จะเดินทางอีกครั้ง ด้วยการออกจากบาร์เซโลน่าเวลา 15.10 น. และจะเดินทางถึงดูไบในวันถัดไปเวลา 00.45 น. จึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ในอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง