เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ที่ห้องปิยราษฎร์ ชั้น 6 สำนักงานใหญ่การประปานครหลวง นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) และคณะ ไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่การประปานครหลวง(กปน.) โดยมีนายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง และคณะกรรมการ กปน. ต้อนรับ นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การประปานครหลวงเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทยที่รับผิดชอบดูแลด้านการผลิตและให้บริการน้ำประปาที่สะอาด มีคุณภาพให้กับประชาชนใน3 พื้นที่หลักคือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่ง กปน. มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนที่จะขยายกำลังการผลิตในระยะที่ 9 เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองต่างๆ โดยมั่นใจว่า ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20ปีข้างหน้า สามารถที่จะวางแผนรองรับในการเติบโตของชุมชนเมืองที่กำลังขยายตัวให้พอเพียงต่อความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน จึงให้ความมั่นใจได้ว่าในพื้นที่การบริการของ กปน. จะผลิตน้ำให้บริการกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน พร้อมทั้งกำชัดให้เร่งสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่มีน้ำประปาใช้ให้สามารถเข้าถึงการบริการของ กปน.ได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมทั้งพัฒนาบุคคลากร เพื่อให้สามารถบริการน้ำประปาที่ใสสะอาดและมีคุณภาพดี ทั้งยังปรับตัวให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดความเป็นระบบ รวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้อย่างครบถ้วน นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มจะต่อเนื่องถึงปีหน้าว่า ปีนี้น้ำต้นทุนน้อยกว่าทุกปี จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด ใช้น้ำท่าที่จำเป็น โดยสามารถช่วยกันประหยัดน้ำได้ง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้น้ำตามความเคยชิน มาเป็นการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ไม่ปล่อยให้น้ำไหลทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ เช่น ปิดน้ำขณะถูสบู่ ใช้แก้วรองน้ำขณะแปรงฟัน โกนหนวดน้ำสุดท้ายจากการชักผ้า ล้างผักผลไม้ หรือน้ำจากการถูบน สามารถนำมารดน้ำดันไม้ต่อได้ หรือแม้แต่การล้างรถ ขอให้ใช้น้ำรองใส่ถังแล้วเช็ดรถแทนการล้างรถ รวมทั้งหมั่นดูแลตรวจสอบอุปกรณ์และระบบประปาภายในบ้านอยู่เสมอ และร่วมกันใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำที่ได้รับการรับรองฉลากประหยัดน้ำจาก กปน.เพื่อสงวนต้นทุนน้ำของประเทศไว้ใช้ให้เกิดประโยหนสูงสุดกับทุกภาคส่วน และร่วมกันฝ่าวิกฤตภัยเล้งไปพร้อมกัน ดังนั้น จึงขอให้ กปน. นำแนวทางการดำเนินงานที่ผ่านมารวมถึงแนวนโยบายการปฏิบัติงานในวันนี้ ไปขยายผล และร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจให้สำเร็จ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร และบรรลุเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน ต่อไป