จากกรณี สาวสวยไม่ตรงสเปกใช้โพรไฟล์หลอกหนุ่มชลบุรี นับ 10 ราย ให้ออกรถป้ายแดงก่อนเชิดหนี โดยรู้จักกันจากการใช้โปรแกรมแชตหาคู่ จนทราบว่าสาวผู้ก่อเหตุคือ น.ส.บุษราคัม หรือ หมวย อายุ 22 ปี เป็นชาว จ.สุรินทร์
ล่าสุด ผู้เสียหายหลายรายเดินทางเข้าแจ้งความแล้ว โดยตำรวจพบว่า น.ส.บุษราคัม หลอกลวงชายหนุ่มหลายคนให้ออกรถกระบะในพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี กว่า 7 คัน และ อ.เมืองชลบุรี อีก 5 คัน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ได้มีการเผยแพร่ ผ่านทางสื่อมวลชน หลากหลายแขนง รวมทั้งสื่อโชเซียล กันอย่างแพร่หลาย โดยผู้เสียหาย เพื่อจะติดตามทวงถามรถยนต์ให้นำมาคืน ซึ่งข้อมูลระบุว่าน.ส.บุษราคัม เดิมทำงานเป็นสาวธนาคาร ในพื้นที่ ต.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี ประมาณ 1 ปี แล้วออกจากธนาคารไป มีพฤติกรรมใช้แอปฯหาคู่ หลอกชายหนุ่มให้ใช้ชื่อในการเช่าซื้อรถยนต์กับทางไฟแนนซ์ โดยจะเน้นแต่รถกระบะเป็นหลัก มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก
ซึ่งผู้เสียหาย ระบุที่ทำการหลอกต้มหลอกลวง คือ น.ส.บุษราคัม อายุ 22 ปี เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้ามาคุยด้วย หลังจากนั้นได้อ้างว่าต้องการรถกระบะไว้ใช้ แต่ไม่สามารถวางดาวน์รถได้เนื่องจากติดแบล็กลิสต์ อยากให้หุ่มๆที่พูดคุยด้วยไปออกรถให้ก่อนหลังจากนั้นจะผ่อนเอง และน.ส.บุษราคัมจะวางดาวน์เองอีกด้วย แล้วก็เชิดรถหนีหาย ทำให้มีผู้เดือดร้อนถูกหลอกชื้อรถกระกว่า 10 ราย
วันนี้(12 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าว ปะจำจังหวัดสุรินทร์ ได้สืบเสาะหาบ้าน ที่อยู่ของนางสาวบุษราคัม เสาร์ทอง หรือหมวย อายุ 22 ปี จนกระทั่งทราบว่า มีบ้านเรือนบ้านพักเป็นหลักแหล่งที่ บ้านขาม หมู่ 3 ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าว ไปที่บ้านเลขที่ 56/1บ้านขาม ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี พบว่า ที่บ้านปิดเงียบ สอบถามญาติๆบ้านข้างเคียง ทราบว่าแม่ของนางสาวบุษราคัม เดินทางไปยังจังหวัดชลบุรี หลังจากทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้พบปะพูดคุยกับลูกสาว ขณะที่ผู้เป็นตา อยู่ที่บ้านเพียงลำพัง มีสภาพป่วยเป็นโรคผู้สูงอายุ ต้องมีลูกหลานพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลรัตนบุรี ตามที่หมอกำหนด
จากนั้นผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถาม นายเล็ก ล้ำเลิศ ซึ่งเป็นลุง และป้าซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ นางสาวบุษราคัม หรือหมวย ของนางสาวบุษราคัม ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน โดยป้าของนางสาวบุษราคัม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องราวขึ้น ทางญาติพี่น้อง ซึ่งส่วนใหญ่พากันไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ก็ได้พยายามที่จะติดต่อหลานสาว เพื่อให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรับผิดชอบในส่วนที่ได้ลงมือทำไป เพราะมันสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ครับครัวที่บ้าน ไม่มีอะไรที่ต้องไปทำแบบนั้นครอบครัวเราพออยู่พอกินตามวิถีคนชนบท ไม่ลำบากมาก อยู่ได้อย่างสบาย ไม่จำเป็นต้องไปทำแบบนั้น ญาติทุกคนเสียใจกับการกระทำของหลาน ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกัน เพื่อติดตามหลานสาวให้มารับผิดชอบ และยืนยันว่า ช่วงสองปี หลานสาวไม่เคยกลับมาบ้านเลย และก็ไม่เคยเห็นเขาเอารถอะไรกลับมาที่บ้าน และหากเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาว ญาติๆทำใจไว้แล้ว ทำผิดต้องรับผิด หรือแม้กะทั่งเอาชีวิตมันไปก็ยอม
นายเล็ก ลำเลิศ ลุงของนางสาวบุษราคัม บอกว่า หลาวสาว สมัยเด็ก เป็นเด็กน่ารักพูดเก่ง คล่องแคล่ว พ่อเขาเสียชีวิต ตั้งแต่เขายังอยู่ในท้องแม่ ช่วงเด็กๆก็จะมาเล่นที่บ้าน เป็นประจำทุกวัน รักเขาเหมือนลูก จนกระทั่งเขาไปทำงาน ที่ชลบุรี ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งเขาก็แต่งงานกับคนหนุ่มในหมู่บ้านเดียวกัน มีลูก ชาย หึ่งคน อายุ 4 ขวบ ลูกชายก็อยู่ที่บ้านเขานั้นแหละ แต่พอไปทำงานที่ชลบุรี แล้ว กลับมีปัญหา มาหาเรื่องระหองระแหงกับสามี ขอย่ากับสามี จนกระทั่งย่ากันไป ทั้งที่สามี ไม่ต้องการย่า จนกะทั่งมีปัญหาเกิดขึ้นเรื่องหลอกลวงหนุ่มๆ ตนเองเชื่อว่า น่าจะมีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังเขา บอกให้เขาทำแบบนี้ ตนเองไม่เชื่อตัวเขาคนเดียวจะทำได้ ญาติๆที่บ้าน บอกเลยว่า ไม่เคยเห็นหลาวสาวขับรถมาที่บ้าน เขาไม่กลับมาบ้าน สองปีแล้ว และเขาก็ขับรถยนต์ไม่เป็นหาก เจอตัวก็จะจับตัวส่งตำรวจเอง ไม่อยากให้ทำให้ใครเดือดร้อน
ซึ่งผู้เสียหาย ระบุที่ทำการหลอกต้มหลอกลวง คือ น.ส.บุษราคัม อายุ 22 ปี เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้ามาคุยด้วย หลังจากนั้นได้อ้างว่าต้องการรถกระบะไว้ใช้ แต่ไม่สามารถวางดาวน์รถได้เนื่องจากติดแบล็กลิสต์ อยากให้หุ่มๆที่พูดคุยด้วยไปออกรถให้ก่อนหลังจากนั้นจะผ่อนเอง และน.ส.บุษราคัมจะวางดาวน์เองอีกด้วย แล้วก็เชิดรถหนีหาย ทำให้มีผู้เดือดร้อนถูกหลอกชื้อรถกระกว่า 10 ราย
วันนี้(12 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าว ปะจำจังหวัดสุรินทร์ ได้สืบเสาะหาบ้าน ที่อยู่ของนางสาวบุษราคัม เสาร์ทอง หรือหมวย อายุ 22 ปี จนกระทั่งทราบว่า มีบ้านเรือนบ้านพักเป็นหลักแหล่งที่ บ้านขาม หมู่ 3 ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าว ไปที่บ้านเลขที่ 56/1บ้านขาม ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี พบว่า ที่บ้านปิดเงียบ สอบถามญาติๆบ้านข้างเคียง ทราบว่าแม่ของนางสาวบุษราคัม เดินทางไปยังจังหวัดชลบุรี หลังจากทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้พบปะพูดคุยกับลูกสาว ขณะที่ผู้เป็นตา อยู่ที่บ้านเพียงลำพัง มีสภาพป่วยเป็นโรคผู้สูงอายุ ต้องมีลูกหลานพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลรัตนบุรี ตามที่หมอกำหนด
จากนั้นผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถาม นายเล็ก ล้ำเลิศ ซึ่งเป็นลุง และป้าซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ นางสาวบุษราคัม หรือหมวย ของนางสาวบุษราคัม ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน โดยป้าของนางสาวบุษราคัม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องราวขึ้น ทางญาติพี่น้อง ซึ่งส่วนใหญ่พากันไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ก็ได้พยายามที่จะติดต่อหลานสาว เพื่อให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรับผิดชอบในส่วนที่ได้ลงมือทำไป เพราะมันสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ครับครัวที่บ้าน ไม่มีอะไรที่ต้องไปทำแบบนั้นครอบครัวเราพออยู่พอกินตามวิถีคนชนบท ไม่ลำบากมาก อยู่ได้อย่างสบาย ไม่จำเป็นต้องไปทำแบบนั้น ญาติทุกคนเสียใจกับการกระทำของหลาน ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกัน เพื่อติดตามหลานสาวให้มารับผิดชอบ และยืนยันว่า ช่วงสองปี หลานสาวไม่เคยกลับมาบ้านเลย และก็ไม่เคยเห็นเขาเอารถอะไรกลับมาที่บ้าน และหากเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาว ญาติๆทำใจไว้แล้ว ทำผิดต้องรับผิด หรือแม้กะทั่งเอาชีวิตมันไปก็ยอม
นายเล็ก ลำเลิศ ลุงของนางสาวบุษราคัม บอกว่า หลาวสาว สมัยเด็ก เป็นเด็กน่ารักพูดเก่ง คล่องแคล่ว พ่อเขาเสียชีวิต ตั้งแต่เขายังอยู่ในท้องแม่ ช่วงเด็กๆก็จะมาเล่นที่บ้าน เป็นประจำทุกวัน รักเขาเหมือนลูก จนกระทั่งเขาไปทำงาน ที่ชลบุรี ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งเขาก็แต่งงานกับคนหนุ่มในหมู่บ้านเดียวกัน มีลูก ชาย หึ่งคน อายุ 4 ขวบ ลูกชายก็อยู่ที่บ้านเขานั้นแหละ แต่พอไปทำงานที่ชลบุรี แล้ว กลับมีปัญหา มาหาเรื่องระหองระแหงกับสามี ขอย่ากับสามี จนกระทั่งย่ากันไป ทั้งที่สามี ไม่ต้องการย่า จนกะทั่งมีปัญหาเกิดขึ้นเรื่องหลอกลวงหนุ่มๆ ตนเองเชื่อว่า น่าจะมีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังเขา บอกให้เขาทำแบบนี้ ตนเองไม่เชื่อตัวเขาคนเดียวจะทำได้ ญาติๆที่บ้าน บอกเลยว่า ไม่เคยเห็นหลาวสาวขับรถมาที่บ้าน เขาไม่กลับมาบ้าน สองปีแล้ว และเขาก็ขับรถยนต์ไม่เป็นหาก เจอตัวก็จะจับตัวส่งตำรวจเอง ไม่อยากให้ทำให้ใครเดือดร้อน