งัดข้อกฎหมาย ส.ป.ก. ใช้รัฐศาสตร์ มากกว่า นิติศาสตร์ มุ่งแก้ปัญหาสังคมและจัดที่ทำกิน ระบุหาก ดำเนินคดี ส.ส.ปารีณา ชาวบ้านแปลงรอบข้างจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยทุกราย ทั้ง วัด โรงเรียน สถานที่ราชการ ทั่วประเทศตั้งในที่ส.ป.ก.โดนอาญาข้อหาบุกรุกเรียบ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค .แหล่งข่าวจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ท่ามกลางกระแสสังคมโจมตีรัฐบาลและส.ป.ก. ใช้กฎหมายสองมาตรฐานไม่ดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถือครองที่ดินส.ป.ก. 682 ไร่ ทำฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม โดย น.ส.ปารีณา ยินยอมคืนพื้นที่ให้กับส.ป.ก. นำไปเข้ากระบวนการจัดสรรสิทธิให้กับเกษตรกร ผู้ยากไร้ ตามนโยบายจัดที่ดินชุมชนของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) นั้น ถ้าส.ป.ก.ดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณา ผู้ที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ รอบๆแปลงของน.ส.ปารีณาต้องถูกดำเนินคดีด้วยเพราะถือว่าผิดกฎหมายเหมือนกันและคนที่ครอบครองที่ ส.ป.ก. ทั่วประเทศกว่า 2 ล้านไร่ที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิเพราะขาดคุณสมบัติ ต้องดำเนินคดีอาญาทั้งหมดรวมทั้ง วัด โรงเรียน ที่ว่าการอำเภอ สถานที่ราชการ ที่อยู่ในเขต ส.ป.ก.แต่ยังไม่ได้ขอใช้ที่ดิน ถือว่าบุกรุกด้วยหรือไม่ ซี่งอาจมองได้ว่ากฎหมายส.ป.ก.เป็นกฎหมายที่อ่อน มีช่องโหว่มาก ทำให้มีการเปลี่ยนมือ ซื้อขายกันได้ง่าย รวมทั้งบทลงโทษไม่มี ไม่เหมือนพื้นที่ป่าไม้ ที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายสามารถจับกุมได้ทันที และการบังคับคดีพื้นที่ส.ป.ก.ต้องอิงประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งข้อกฎหมายของส.ป.ก.ใช้หลักเกณฑ์ทางรัฐศาสตร์ มากกว่านิติศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาสังคมและที่ดินทำกิน ที่เกิดความขัดแย้งในทุกพื้นที่ จากผืนป่าโดนบุกรุกมากขึ้นได้มอบพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม มาให้ส.ป.ก.กว่า 40 ล้านไร่ “ที่ผ่านมาส.ป.ก.ดำเนินคดีกับผู้บุกรุก ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และมาตรา 108 ทวิ ฟ้องอาญา อัยการสั่งไม่ฟ้องทั้งหมดเพราะขาดเจตนาบุกรุก ซี่งการดำเนินคดีของส.ป.ก.มีทำได้เพียงการฟ้อง 1. ฟ้องอาญา ข้อหาบุกรุก 2.ฟ้องแพ่ง ขับไล่ กรณีไม่ยอมคืนที่ส.ป.ก.”แหล่งข่าว กล่าว