“MTC”ยืนยันไร้ผลกระทบจากโครงการแบงก์ชาติ เปิดให้ลูกหนี้บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด สามารถรีไฟแนนซ์ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 7-12% จากอัตราดอกเบี้ยปกติระดับ 18-28% เนื่องจากบริษัทไม่มีลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว ประเมินโค้งสุดท้ายปีนี้พอร์ตสินเชื่อเติบโตแตะนิวไฮระดับ 25-30% พร้อมเดินหน้าโรดโชว์อัพเดทข้อมูลให้นักลงทุนสถาบันประเทศสิงคโปร์ และสหรัฐฯในไตรมาสแรกปีหน้า นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่าจากกรณีที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยมีแผน เปิดโครงการรีไฟแนนซ์ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ดีของบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ด้วยการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเพียงระดับ 7-12% จากอัตราดอกเบี้ยปกติที่ระดับ 18-28% สำหรับลูกหนี้ที่เข้าโครงการ ทั้งนี้จากโครงการดังกล่าว บริษัทไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อประเภทบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ดังนั้นการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ทุกประการ โดยในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ บริษัทยังมั่นใจในผลการดำเนินงาน ซึ่งน่าจะเป็นไปตามทิศทางที่ได้สื่อสารไว้กับนักลงทุน โดยพอร์ตสินเชื่อประมาณการว่าจะเติบโต จากงวดเดียวกันปีก่อนในอัตรา 25-30% และการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อยังคงเติบโตต่อเนื่อง และคาดว่าจะทำนิวไฮอีกครั้ง ขณะที่บริษัทยังสามารถควบคุมอัตราส่วนหนี้เสียของพอร์ตสินเชื่อให้อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ซึ่งคาดการณ์ว่าจะไม่เกิน 1.5% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศทั่วไปอยู่ในสภาวะถดถอย ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปี 2562 บริษัทได้รับรางวัลที่สำคัญจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD)และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้แก่ รางวัล Board of the Year Award 2018,รางวัล Outstanding Company Performance Awards,รางวัล Outstanding CEO Awards และรางวัล Thailand Sustainability Investment (THSI)จากรางวัลดังกล่าวข้างต้นทำให้ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมีความสนใจและต้องการให้บริษัทไปนำเสนอข้อมูลการดำเนินธุรกิจของบริษัททั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างคึกคัก สำหรับในไตรมาส 1/63 บริษัทมีแผนจะเดินทางไปพบนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยจะเดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 9-10 ม.ค.63 ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เครดิตสวิส(ประเทศไทย)จำกัด คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังข้อมูลไม่ต่ำกว่า 25 กองทุน อีกทั้งยังมีแผนเดินทางไปที่ประเทศสหรัฐฯในเมืองนิวยอร์ค-บอสตัน ระหว่างวันที่ 15-16 ม.ค.63 ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังไม่ต่ำ 20 กองทุน