สทนช. ขานรับผลการประชุมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 25 เร่งขับเคลื่อนมาตรการสีเขียวเข้ามาใช้ในงานก่อสร้างด้านน้ำ พร้อมเพิ่มศักยภาพการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 25 (COP25) โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีประเทศสมาชิกเข้าร่วมประชุมกว่า 197 ประเทศทั่วโลก รวมถึงกลุ่มองค์กรเพื่อการป้องกันและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าร่วม ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปนว่า หลายประเทศได้พยายามแสดงจุดยืนและท่าทีของประเทศในการป้องกันและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในมิติด้านน้ำประเทศไทยโดย สทนช. จะเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการงานปรับตัวด้านน้ำ โดยหารือร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน หรือ GIZ เพื่อร่วมกันจัดทำกรอบนโยบายและแผนปฏิบัติการ โดยจะศึกษาและจัดทำแผนปฏิบัติการระดับลุ่มน้ำ นำร่องในพื้นที่2 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำสะแกกรัง เพื่อผนวกมาตรการสีเขียวเข้าไปในแผนศึกษาและก่อสร้าง นอกจากนี้ จะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยและหน่วยงานด้านน้ำที่มีมากกว่า 40 หน่วยงาน จัดทำ โครงการอบรมนักบริหารน้ำรุ่นใหม่ (Boot Camp) เน้นยกระดับองค์ความรู้การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างข้าราชการรุ่นใหม่ให้ตระหนักในผลกระทบของโลกร้อน ที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อสร้างจิตสำนึกการพัฒนาแบบล่างขึ้นบน (bottom up) ที่ตอบสนองตามความต้องการของชุมชนเป็นสำคัญ และเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนแนวทางเสริมสร้างศักยภาพรวมถึงความเข้มแข็งของระบบการบริหารจัดการด้านการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม “ที่ผ่านมา สทนช. และ สผ. ได้หารือแนวทางเบื้องต้นในการขับเคลื่อนการทำงานด้านการตั้งรับปรับตัวของภาคส่วนน้ำแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย (Policy Brief) สนับสนุนการนำมาตรการสีเขียวเข้ามาใช้ในงานก่อสร้างด้านน้ำ ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ที่ระบุในแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยจะจับมือกับ GIZ ในการจัดทำคู่มือการดำเนินงานด้านการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศ หรือ Ecosystem based Adaptation (EbA) ซึ่งเป็นมาตรการสีเขียวในการต่อสู้กับสภาวะโลกร้อนต่อไป”ดร.สมเกียรติ กล่าว