ทนายดัง พาแม่น้องเต้ ฟังคำสั่งสืบพยานเพิ่ม พร้อมเดินถือรูปสามี และลูกชายเข้าศาล เชื่อความยุติธรรมมีอยู่จริง หลังศาลอุทธรณ์ สั่งล่าตัว "นายตง" มาเบิกความ
นางเรวดี ทัฬหสุนทร แม่ของนายธนิต ทัฬหสุนทร หรือน้องเต้ ได้เดินถือกรอบรูปของน้องเต้ และนายศุภชัย ทัฬหสุทร พ่อของน้องเต้ ที่ตัดสินใจกระโดดอาคารจากชั้น8 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 จนถึงแก่ความตาย เพื่อเข้ามาฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ ที่ศาลอาญา รัชดา พร้อมกับนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ หลังจากยื่นขอให้ศาลสืบพยานเพิ่มเติม นายพีรวิชญ์ ปุตตะจินารักษ์ พยานคนสำคัญในคดีแทงน้องเต้ เสียชีวิต ในขณะที่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ ย่านถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อปี2559 ซึ่งในคดีนี้ พ่อของนายตง อ้างว่า นายตง มีการป่วยทางจิต อยู่ระหว่างขั้นตอนการรักษาไม่สามารถขึ้นเบิกความได้ก่อนหน้านี้ จนทำให้ประจักษ์พยานในคดีนี้อ่อน ทำให้ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งยกฟ้องนายณัฐพงษ์ เงินคิรี หรือโจ้ จำเลยในคดีฆ่าผู้อื่น โดยใช้มีดแทงน้องเต้ เสียชีวิต จนเป็นเหตุให้พ่อของน้องเต้ ตัดสินใจคิดสั้น เนื่องจากความเครียด และผิดหวังจากการสู้คดี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย
โดยนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า หลังจากที่ยื่นขอให้ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนสืบพยานนายตง ก็พบว่า นายตงไม่ใช่คนวิกลจริต และพบว่าไปกระทำความผิดในพื้นที่ สน.ประเวศ อีก 8 คดี จึงอาศัยเหตุนี้ในการยื่นอุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ย้อนสำนวนสืบพยานใหม่ก็จะเป็นเรื่องที่ดีของวงการกฎหมายไทย เพราะที่ผ่านมาการสืบพยานจะมีเพียงศาลชั้นต้น ไม่สามารถย้อนสำนวนในชั้นอุทธรณ์ได้ และคิดว่าถ้าหากศาลอุทธรณ์ให้ความเมตตาในการสืบพยานใหม่ คำพิพากษาในคดีนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าศาลอุทธรณ์จะไม่อนุญาตให้มีการสืบพยานเพิ่มเติม ทางอัยการและตนเองในฐานะทนายโจทก์ร่วม ได้ยื่นอุทธรณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ยินดีที่จะน้อมรับ
ด้านนางเรวดี เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจ และยังมีความหวังต่อการพิจารณาของศาลอุทธรณ์วันนี้ พร้อมทั้งยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และยังได้ฝากถึงผู้เกี่ยวข้องในคดี ว่าขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายหลังจากศาลได้พิจารณาแล้ว ก็มีคำสั่งว่าให้จำหน่ายคดีไปยังศาลชั้นต้น เพื่อสืบพยานเพิ่มเติม โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า อาการของนายตง ยังสามารถเบิกความได้ เนื่องจากแพทย์ได้ลงความเห็นไว้ว่า นายตงจะต้องได้รับการรักษาจนหายดีก่อนที่จะขึ้นเบิกความต่อศาล ซึ่งหลังจากนี้ ทางอัยการ ในฐานะโจทก์ จะต้องติดตามตัวนายตง มาเบิกความ พร้อมทั้งถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกอาการของนายตง มาให้ศาลพิจารณา ก่อนนำขึ้นเบิกความ หากอาการของนายตง ยังไม่ดีขึ้น ก็ให้พาไปรักษาตัวจนหายดีแล้วจึงนำขึ้นเบิกความได้ อย่างไรก็ตาม ทางแม่ของน้องเต้ได้ฝากถึงนายตงว่าขอให้ออกมาพูดความจริง เพราะนายตง เป็นพยานคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์
โดยนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า หลังจากที่ยื่นขอให้ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนสืบพยานนายตง ก็พบว่า นายตงไม่ใช่คนวิกลจริต และพบว่าไปกระทำความผิดในพื้นที่ สน.ประเวศ อีก 8 คดี จึงอาศัยเหตุนี้ในการยื่นอุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ย้อนสำนวนสืบพยานใหม่ก็จะเป็นเรื่องที่ดีของวงการกฎหมายไทย เพราะที่ผ่านมาการสืบพยานจะมีเพียงศาลชั้นต้น ไม่สามารถย้อนสำนวนในชั้นอุทธรณ์ได้ และคิดว่าถ้าหากศาลอุทธรณ์ให้ความเมตตาในการสืบพยานใหม่ คำพิพากษาในคดีนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าศาลอุทธรณ์จะไม่อนุญาตให้มีการสืบพยานเพิ่มเติม ทางอัยการและตนเองในฐานะทนายโจทก์ร่วม ได้ยื่นอุทธรณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ยินดีที่จะน้อมรับ
ด้านนางเรวดี เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจ และยังมีความหวังต่อการพิจารณาของศาลอุทธรณ์วันนี้ พร้อมทั้งยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และยังได้ฝากถึงผู้เกี่ยวข้องในคดี ว่าขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายหลังจากศาลได้พิจารณาแล้ว ก็มีคำสั่งว่าให้จำหน่ายคดีไปยังศาลชั้นต้น เพื่อสืบพยานเพิ่มเติม โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า อาการของนายตง ยังสามารถเบิกความได้ เนื่องจากแพทย์ได้ลงความเห็นไว้ว่า นายตงจะต้องได้รับการรักษาจนหายดีก่อนที่จะขึ้นเบิกความต่อศาล ซึ่งหลังจากนี้ ทางอัยการ ในฐานะโจทก์ จะต้องติดตามตัวนายตง มาเบิกความ พร้อมทั้งถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกอาการของนายตง มาให้ศาลพิจารณา ก่อนนำขึ้นเบิกความ หากอาการของนายตง ยังไม่ดีขึ้น ก็ให้พาไปรักษาตัวจนหายดีแล้วจึงนำขึ้นเบิกความได้ อย่างไรก็ตาม ทางแม่ของน้องเต้ได้ฝากถึงนายตงว่าขอให้ออกมาพูดความจริง เพราะนายตง เป็นพยานคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์