วันที่ 11 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชายหาดบริเวณหมู่ที่ 7 ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช แม้ว่าคลื่นลมจะลดระดับความรุนแรงลงบ้างแล้ว แต่ความเสียหายจากการกัดเซาะหาดทราย ชายหาดตลอดทั้งแนวตำบลหน้าสตนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางจุดได้มีการก่อสร้างเขื่อนหินกันคลื่นแล้วก็ตามแต่คลื่นกลับม้วนเข้ามากวาดทรายกลับลงไปในทะเล ทำให้ชาวบ้านที่มีที่ดินเอกสารสิทธิ์ริมทะเลกังวลอย่างมากหลายรายถูกคลื่นกัดเซาะเข้าไปในที่ดินนับสิบเมตร โดยต่างเชื่อว่าเกิดจากการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นของทางการอย่างต่อเนื่อง และทำให้กลศาสตร์ของคลื่นลมมีความเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องอย่างไม่จบสิ้นหากไม่มีการทบทวน นอกจากคลื่นลมที่กัดเซาะอย่างรุนแรงแล้วพื้นที่ชายหาดหัวไทรในช่วงตำบลหน้าสตน ตำบลเกาะเพชร ยังเต็มไปด้วยก้อนน้ำมัน หรือที่เรียกว่า “ทาร์บอล”ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยหาดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร โดยลักษณะก้อนน้ำมันแบบนี้จะถูกคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่งแทบทุกปี มีบางหน่วยงานเคยเข้ามาเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบ แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดให้คำตอบได้ว่าก้อนน้ำมันนี้มีที่มาจากที่ใด หรือแหล่งต้นทางจากแหล่งใด อย่างไรก็ตามเมื่อราว 4 ปีก่อนมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้เข้าเก็บตัวอย่างพิสูจน์แล้วได้ผลสรุปเบื้องต้นว่า เป็นก้อนน้ำมันดิบที่ถูกทำให้องค์ประกอบทางเคมีบางตัวหายไป แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากที่ใด และล่าสุดนั้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก้อนน้ำมันยังคงถูกซัดเข้ามายังชายหาดหัวไทร อย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าแสดงความรับผิดชอบในการตรวจสอบหรือระบุแหล่งที่มาของน้ำมันอย่างชัดเจน.