วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. สน. บางโพ นาย เอกชัย หงส์กังวาน พร้อมด้วย นาย โชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1ในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ (ม.157) ในการติดตามหมายจับของ ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ โดย มี พ.ต.อ อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก สน บางโพ ร่วมทำการสอบสวน
โดย นาย เอกชัย หงส์กังวาน เปิดเผยว่า เนื่องจากศาลพัทยา ได้อ่านคำพิพากษาจากกรณี 2552 ซึ่งศาลได้พิพากษาให้จำคุก กว่า10คน หนึ่งในนั้นคือ นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แต่นายไวพจน์อ้างเรื่องเอกสิทธิ์การคุ้มครองแต่ศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลังและได้ออกหมายจับ โดยทันทีถึงแม้ศาลจะนัดให้มาฟังคำพิพากษาในเดือนหน้าก็ตามจึงเท่ากับว่าคดีนี้สิ้นสุดแล้ว และไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองได้อีก และยืนยันว่านายไวพจน์ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการเมืองแล้ว
"ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เจอตัวนาย ไวพจน์ สามารถจับกุมตัวได้เลย ออกมาและเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน62 พบว่าคุณไวพจน์อาภรณ์รัตน์ ได้เข้าร่วมประชุมสภาแต่ไม่มีการจับกุมใดๆทั้งสิ้น ทางสภาอ้างว่ายังไม่เห็นหมายจับซึ่งงตามหลักแล้วถึงแม้ยังไม่เห็นหมายจับถ้ารู้ว่ามีการออกหมายจับแล้วสามารถแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ในสภาทำการจับกุมได้เพราะฉะนั้นเห็นว่าการกระทำของนายชวน หลีกภัยและนายสุชาติ ตันเจริญ เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นการกระทำผิด วันนี้เลยมาแจ้งความเอาผิด นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 กับ พนักงานสอบสวนและให้ลงบันทึกประจำวันไว้ และจากนั้นจะนำบันทึกประจำวันและหมายจับไปให้ทางสภาในวันพุธที่จะมีการประชุมสภาอีกและถ้าคุณสุชาติอ้างว่าไม่เห็นหมายจับอีกก็เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นเป็นหลักฐานว่า นาย ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ มีหมายจับ" นายเอกชัย กล่าว
ผู้สือข่าวรายงานว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบในระบบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ มีความผิดตาม พรบ ป่าไม้ ปี 52 เท่านั้น ส่วนกรณีที่ไปบุกรุกล้มการประชุมอาเชียน ที่ืพัทยา ปี52 ที่ร่วมกับพวกยังไม่มี ยังไม่มี ในสาระบบ ของการออกหมายจับแต่อย่างใด ทั้งนี้ นาย เอกชัย กล่าวว่า ตัวเอง งงมาก ทำไม่พรรคพวกโดยหมายจับกันหมด แต่นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ไม่มีหมายจับคนเดียว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจในสาระบบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนก็งง แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็จะข้อ หมายจับใน ในความผิดตาม พรบ ป่าไม้ ปี52 ไปยื่นกับเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้เลย
ด้าน พ.ต.ท กุศล อ่อนวรรณะ หัวหน้างานสอบสวน สน บางโพ ได้อธิบาย ให้ นาย เอกชัยฟังว่า ในระหว่างสมัยประชุม ส.ส นาย ไวพจน์ มีเอกสิทธิ์ คุ้มครองทางการเมือง ไม่สามารถไป จำกุมตัว นาย ไวพจน์ ได้ ซึ่งระหว่างนั้น ทางนายเอกชัย ได้มีการโต้เถียงกับทาง พ.ต.ท กุศล ว่า ทำมั้ย มันถีงคุ้มครอง นายไวพจน์ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ศาลจะคุ้มครอง นายไวพจน์ ในระหว่างที่เค้าทำการสอบสวน เท่านั้น แต่นี้ศาลได้ตัดสินแล้ว สามารถจับกุมนาย ไวพจน์ ได้เลย ก่อนที่ทางพ.ต.อ อิทธิเชษฐ์ จะขอให้นาย เอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหว เข้ามาพูดคุยในห้องทำงาน เพียง 2 คน โดยใข้เวลาการพูดคุยได้สักพัก
นาย เอกชัย ได้เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับทาง พ.ต.อ อิทธิเชษฐ์ หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะรับเรื่องเอาไว้ ส่วนการตรวจหมายจับที่ศาลฎีกา มีคำพิพากษา นายไวพจน์ ทาง สน บางโพ จะส่ง เจ้าหน้าที่ สน บางโพ ไป ที่ ศาลจังหวัดพัทยา ให้ ซึ่งตนไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ จะเอาผลมาให้ทันหรือไม่ ซึ่งพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดอีก และวันพุธก็จะมีการประชุมแล้ว และวันนี้ตนก็จะเดินทางไปกับทางเจ้าหน้าที่ไปนำหมายจับมาให้เจ่าหน้ารัฐสภา ในวันนี้ให้ได้
"ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เจอตัวนาย ไวพจน์ สามารถจับกุมตัวได้เลย ออกมาและเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน62 พบว่าคุณไวพจน์อาภรณ์รัตน์ ได้เข้าร่วมประชุมสภาแต่ไม่มีการจับกุมใดๆทั้งสิ้น ทางสภาอ้างว่ายังไม่เห็นหมายจับซึ่งงตามหลักแล้วถึงแม้ยังไม่เห็นหมายจับถ้ารู้ว่ามีการออกหมายจับแล้วสามารถแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ในสภาทำการจับกุมได้เพราะฉะนั้นเห็นว่าการกระทำของนายชวน หลีกภัยและนายสุชาติ ตันเจริญ เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นการกระทำผิด วันนี้เลยมาแจ้งความเอาผิด นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 กับ พนักงานสอบสวนและให้ลงบันทึกประจำวันไว้ และจากนั้นจะนำบันทึกประจำวันและหมายจับไปให้ทางสภาในวันพุธที่จะมีการประชุมสภาอีกและถ้าคุณสุชาติอ้างว่าไม่เห็นหมายจับอีกก็เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นเป็นหลักฐานว่า นาย ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ มีหมายจับ" นายเอกชัย กล่าว
ผู้สือข่าวรายงานว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบในระบบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ มีความผิดตาม พรบ ป่าไม้ ปี 52 เท่านั้น ส่วนกรณีที่ไปบุกรุกล้มการประชุมอาเชียน ที่ืพัทยา ปี52 ที่ร่วมกับพวกยังไม่มี ยังไม่มี ในสาระบบ ของการออกหมายจับแต่อย่างใด ทั้งนี้ นาย เอกชัย กล่าวว่า ตัวเอง งงมาก ทำไม่พรรคพวกโดยหมายจับกันหมด แต่นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ไม่มีหมายจับคนเดียว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจในสาระบบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนก็งง แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็จะข้อ หมายจับใน ในความผิดตาม พรบ ป่าไม้ ปี52 ไปยื่นกับเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้เลย
ด้าน พ.ต.ท กุศล อ่อนวรรณะ หัวหน้างานสอบสวน สน บางโพ ได้อธิบาย ให้ นาย เอกชัยฟังว่า ในระหว่างสมัยประชุม ส.ส นาย ไวพจน์ มีเอกสิทธิ์ คุ้มครองทางการเมือง ไม่สามารถไป จำกุมตัว นาย ไวพจน์ ได้ ซึ่งระหว่างนั้น ทางนายเอกชัย ได้มีการโต้เถียงกับทาง พ.ต.ท กุศล ว่า ทำมั้ย มันถีงคุ้มครอง นายไวพจน์ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ศาลจะคุ้มครอง นายไวพจน์ ในระหว่างที่เค้าทำการสอบสวน เท่านั้น แต่นี้ศาลได้ตัดสินแล้ว สามารถจับกุมนาย ไวพจน์ ได้เลย ก่อนที่ทางพ.ต.อ อิทธิเชษฐ์ จะขอให้นาย เอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหว เข้ามาพูดคุยในห้องทำงาน เพียง 2 คน โดยใข้เวลาการพูดคุยได้สักพัก
นาย เอกชัย ได้เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับทาง พ.ต.อ อิทธิเชษฐ์ หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะรับเรื่องเอาไว้ ส่วนการตรวจหมายจับที่ศาลฎีกา มีคำพิพากษา นายไวพจน์ ทาง สน บางโพ จะส่ง เจ้าหน้าที่ สน บางโพ ไป ที่ ศาลจังหวัดพัทยา ให้ ซึ่งตนไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ จะเอาผลมาให้ทันหรือไม่ ซึ่งพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดอีก และวันพุธก็จะมีการประชุมแล้ว และวันนี้ตนก็จะเดินทางไปกับทางเจ้าหน้าที่ไปนำหมายจับมาให้เจ่าหน้ารัฐสภา ในวันนี้ให้ได้