“อลงกรณ์” ผลักดันตั้งองค์กรผ่านมติที่ประชุมฯ สำเร็จ กก.หนุนชื่อ “กองเกลือทะเลไทย” เลขาฯสมาพันธ์น้ำตาคลอบอกเกลือทะเลไทยมีบ้านแล้ว นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย ครั้งที่ 2/2562 เพื่อติดตามผลการจัดสร้างองค์กรรับผิดชอบเรื่องเกลือทะเลจากการประชุมครั้งที่แล้ว นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สำนักเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้ดำเนินการจัดทำแผนโครงสร้างองค์กรเพื่อรับผิดชอบเรื่องเกลือทะเลไทยเสร็จสิ้นแล้ว และได้นำมาเสนอที่ประชุมฯโดยหน่วยงานดังกล่าวสังกัดสำนักปลัดกระทรวงฯ มีอัตราเจ้าหน้าที่ 15 อัตรา และมีอำนาจหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ วิจัย ส่งเสริมการผลิตและตลาดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มฯลฯ ซึ่งมี 4 กลุ่มงาน คือ 1.กลุ่มอนุรักษ์และคุ้มครองเกลือทะเล 2.กลุ่มวิจัยและพัฒนาเดลือทะเล 3.กลุ่มส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีเกลือทะเล 4.กลุ่มเศรษฐกิจและการตลาดเกลือทะเล “ขอชื่นชมการทำงานที่รวดเร็วของ สศก. โครงสร้างของหน่วยงานใหม่นี้ตรงกับความต้องการของเกษตรชาวนาเกลือ แต่การจัดตั้งกองงานใหม่ขึ้นมานั้นยังมีขั้นตอนอีกมากมาย ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบจากหลายหน่วยงานอาทิ กพร. และต้องนำเสนอ ครม. คงใช้เวลานาน แต่เพื่อให้เกลือทะเลไทยมีหน่วยงานรับผิดชอบอย่างจริงจังเป็นรูปธรรมในทันที ตนจึงขอมติที่ประชุมฯให้ตั้งเป็นหน่วยงานภายในไปพลางก่อนจะได้ดำเนินการแก้ปัญหาและพัฒนาได้ทันที ตนเสนอให้ใช้ชื่อว่า กองเกลือทะเลไทย ซึ่งที่ประชุมฯให้ความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์”นายอลงกรณ์ กล่าว ด้าน น.ส.เกตุแก้ว สำเภาเงิน เลขาธิการสมาพันธ์ชาวนาเกลือทะเลไทย กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และท่านอลงกรณ์ พลบุตรอย่างที่สุด เพราะจากการที่ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทยทั้ง 2 ครั้ง พวกเราได้เห็นความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ในการแก้ไขปัญหาเชิงรุกแบบเกาะติดจากท่าน ดีใจมากๆ ที่เกลือทะเลไทย เริ่มมองเห็นทางรอด เริ่มมองเห็นอนาคต ซึ่งนับจากเมื่อวันที่ 1 มี.ค.54 ค.ร.ม.มีมติ ให้การทำนาเกลือเป็นเกษตรกรรม และคนทำนาเกลือเป็นเกษตรกร โดยให้กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้รับผิดดูแลส่งเสริม แต่ผ่านมาเกือบ 9 ปี เพี่งเห็นความชัดเจนจากการประชุมฯ ครั้งนี้ โดยที่ประชุมมีมติให้ตั้ง กองเกลือทะเลไทย เป็นกองภายใน โดยให้สำนักปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบแล้วทุกกรมมีหน้าที่ช่วยกันส่งเสริมสนับสนุน “ในฐานะที่ดิฉันเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนผลักดันเรื่องเกลือทะเลไทยมามากว่า 5 ปี มันเหนื่อยแทบขาดใจ ที่สำคัญมันน้อยใจสุดๆมาโดยตลอด ที่หลายท่านไม่ยอมรับเกลือทะเลไทยไปดูแล โดยต่างให้เหตุผลว่า เกลือทะเลไทย ไม่ได้อยู่ในภาระกิจ พอในที่ประชุมมีมติ จึงดีใจสุดๆ มองว่าเกลือทะเลไทยจะมีบ้านอยู่แล้ว ถึงวันนั้นใครจะมารังแกเกลือทะเลไทยคงยากขึ้น แผ่นดินเกลือทะเลไทย สมบัติที่มีค่ายิ่งของคนไทย แหล่งอาหาร แหล่งเกลือแร่ ของคนไทยเรา ใครคิดจะทำร้าย ใครคิดจะย่ำยี คงไม่ง่ายอีกต่อไป”น.ส.เกตุแก้ว กล่าว