วันที่ 7 ธ.ค.62 ณ ห้วยคำอีลุน บ้านนาสี ม.6 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายเกษม ปิยะชาติสกุล เจ้าของบริษัท ปิยะฟาร์ม จำกัด (ฟาร์มเลี้ยงหมู) เลขที่ 124 ม.11 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมด้วยนายมนตรี โพธิ์ชัย ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาสี ม.6 พร้อมสื่อมวลชน ได้ร่วมลงพื้นที่เพื่อเป็นสักขีพยานในการแก้ไขปัญหาน้ำในลำห้วยมีสภาพเป็นสีดำเนื่องจากน้ำจากบ่อบำบัดของฟาร์มฯ ได้เอ่อล้นไหลลงสู่ลำห้วยในห้วงเดือนกันยายน 62 ที่ผ่านมา นายเกษม ปิยะชาติสกุล เจ้าของบริษัท ปิยะฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า วันนี้ (7 ธ.ค.62) ตนพร้อมพนักงาน ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาสี ตัวแทนชาวบ้าน และสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมกันเป็นสักขีพยานในการปรับปรุงสภาพน้ำใน “ลำห้วยคำอีลุน” ซึ่งสิ่งที่จะทำในครั้งนี้ก็คือ การโยนลูก EM (Effective Microorganisms ซึ่งมีความหมายว่า กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะเป็นของเหลว สีน้ำตาล กลิ่นหวานอมเปรี้ยว เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมี หรือ ยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อต่างๆ ได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืช และแมลงที่เป็นประโยชน์ ช่วยปรับสภาพ) จำนวน 1,700 ลูก หรือระยะความยาวตลอดลำห้วย 1,700 เมตร นี่คือขั้นตอนแรก ซึ่งจะเป็นการบำบัดน้ำในเบื้องต้น จากนั้น ก็จะเติมสารปรับสภาพน้ำลงในลำห้วย ทำให้น้ำที่มีลักษณะสีดำ กลายเป็นน้ำที่มีสภาพใสขึ้น เป็นการเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เมื่อลำห้วยแห่งนี้ได้รับน้ำฝน ก็จะทำให้น้ำ กลับคืนสู่สภาพปกติ นอกจากนี้ ทางปิยะฟาร์ม ก็จะเติมจุลินทรีย์ลงไปในน้ำตลอดเส้นทาง 1.7 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ขณะนี้น้ำในลำห้วย ทางปิยะฟาร์ม ได้วัดค่าความเป็นกลางแล้ว พบว่าน้ำมีสภาพปกติ มีออกซิเจนเพียงพอ เพียงแต่เป็นสีดำคล้ำเท่านั้นเอง ซึ่งทาง “ปิยะฟาร์ม” สัญญาว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นตามที่ได้สัญญากับชุมชนไว้ ด้านนายมนตรี โพธิ์ชัย ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาสี ม.6 กล่าวว่า ตนขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ได้รับผลกระทบ ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียกับฟาร์มหมู ปิยะฟาร์ม อำเภอบ้านผือว่า ทางผู้จัดการฟาร์มปิยะฟาร์ม อำเภอบ้านผือ ได้เข้ามาดำเนินการเพื่อปรับสภาพน้ำของลำห้วยคำอีลุนแล้ว ซึ่งก็ได้ทำการปรับปรุงมาหลายขั้นตอนแล้วจนถึงกระบวนการปัจจุบันก็คือ การเพิ่มจุลินทรีย์, โยนลูก EM, และเติมสารปรับสภาพน้ำ ทำให้ทราบว่าผลการวิจัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม สารที่นำมาทำการปรับปรุงสภาพน้ำในครั้งนี้สามารถปรับสภาพน้ำในลำห้วยให้กลับคืนมาเข้าสู่สภาพปกติดังเดิมได้ ซึ่งตนก็ขอยืนยันว่าทาง “ปิยะฟาร์ม” ก็ได้ดำเนินการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง คิดว่าอีกไม่นานสภาพน้ำในลำห้วย จะกลับคืนสู่สภาพเดิมและใช้งานได้ปกติดังเดิม และตนก็จะนำสารดังกล่าวไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปทำการปรับปรุงสภาพน้ำบริเวณหน้าลำห้วยที่ติดกับที่ดินของชาวบ้านต่อไป นอกจากนี้ นายเกษม ปิยะชาติสกุล เจ้าของบริษัท ปิยะฟาร์ม จำกัด ยังได้นำสื่อมวลชน ร่วมสังเกตการณ์พื้นที่บริเวณโดยรอบของฟาร์ม ที่มีการปล่อยน้ำบำบัดจากฟาร์มให้เกษตรกรชาวไร้อ้อย ไร่มันสำปะหลัง และสวนยางพารา กว่า 1,000 ไร่ ได้ใช้ประโยชน์พบว่า ที่ดินของเกษตรกรมีภาพเหมาะแก่การเพาะปลูกดีขึ้น ผลผลิตดีขึ้น และลดการใช้ปุ๋ยมากกว่าร้อยละ 80 กระทั่งมีเกษตรกรนำรถมาบรรทุกน้ำบำบัดจากฟาร์มไปใช้ประโยชน์เพื่อรดพืชผลทางการเกษตรอีกด้วย.