เคราะห์ร้าย ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ประกอบกับความไร้เดียงสาของเด็กน้อย ที่ตามพ่อแม่ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวไปรับจ้างตัดมันสำปะหลัง วิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกัน ขณะที่พ่อแม่และกลุ่มเพื่อนคนงานต่างด้าวกำลังสาระวนกับการตัดมันสำปะหลัง หัวใจของผู้เป็นแม่หายเมื่อเหลือบไปเห็นลูกน้อยหายไป สอบถาม ลูกๆ เพื่อนคนงานบอกเห็นเดินไปทางฝายน้ำล้น จึงพากันออกติดตามค้นหา แต่ไร้ร่องรอย คนเป็นพ่อจึงกระโดดลงน้ำควานหาตัวในน้ำ ผู้เป็นแม่หัวใจแทบหยุดเต้นร้องไห้โฮ เมื่อเห็นสามีอุ้มลูกน้อยที่อยู่ในสภาพจมน้ำเสียชีวิตแล้ว คาดด้วยความไร้เดียงสา ประกอบกับรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คงแยกไปเดินเล่นบนคันดินขอบฝายน้ำล้นแล้วเกิดพลัดตกลงไปในน้ำจมน้ำเสียชีวิต เหตุน่าเศร้าหนูน้อยวัย 5 ขวบจมน้ำเสียชีวิตครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 6 ธ.ค.62 พ.ต.ต.ประณิพัฒน์ เย็นจิต สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชนบ้านทัพศิลา ต.วังด้งฯ ว่าได้รับแจ้งทางวิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ จุดบ้านทัพศิลา เกิดเหตุเด็กชายชาวเมียนมาจมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณฝายน้ำล้นใกล้ไร่มันสำปะหลัง พื้นที่หมู่ 6 ต.ช่องสะเดา หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ จากการตรวจสอบที่เกิดซึ่งเป็นฝายน้ำล้นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ห่างจากไร่มันสำปะหลังไปประมาณ 30 เมตร พบว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้ใช้ผ้าคลุมร่างของเด็กชายยี(นามสมมุติ) อายุ 5 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายโจช่วย และนางวา 2 สามีภรรยาสัญชาติเมียนมา คนงานรับจ้างตัดมันสำปะหลังซึ่งอยู่ในอาการกำลังนั่งร้องไห้คร่ำครวญต่อการจากไปของลูกชาย เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า สาเหตุของการเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1-2 ชม. สอบสวนปากคำนายโจช่วย อายุ 39 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง และนางวา ผู้เป็นแม่ อายุ 39 ปี ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนและภรรยาพร้อมด้วยคนงานชาวเมียนมา ได้พาลูกๆ ของเพื่อนคนงานมาตัดมันสำปะหลังตามที่เถ้าแก่สั่ง โดยปล่อยให้เด็กชายยีวิ่งเล่นอยู่กับลูกเพื่อนๆ คนงาน 3-4 คน ผ่านไปไม่นานนางวา ได้หันไปมองที่กลุ่มเด็กๆ วิ่งเล่นกัน แต่ไม่เห็นลูกชาย จึงเดินไปสอบถามเด็กๆ ว่าเด็กชายยีหายไปไหน เด็กๆ บอกว่า เห็นเดินไปทางฝายน้ำล้น ตนจึงตะโกนเรียกสามี และพากันออกตามหาไปที่ฝายน้ำล้น แต่ก็ไม่เจอ ซึ่งตนและสามีเชื่อว่า ลูกต้องจมอยู่ในน้ำ อย่างแน่นอน จึงร้องบอกให้สามีกระโดดลงไปในน้ำเพื่อค้นหาจนกระทั่งเจอลูกชายจมน้ำเสียชีวิตแล้ว จึงนำร่างขึ้นมาไว้บนบก และไปบอกเถ้าแก่แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และตำรวจมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามนายจ้างรวมทั้งนายโจช่วย และนางวา ว่าติดใจสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่ เชื่อว่าด้วยความไร้เดียงสา และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เด็กน้อยผู้น่าสงสารไปเดินเล่นแล้วคงเกิดก้าวเท้าพลาดผลัดตกลงไปในน้ำจมน้ำเสียชีวิตเอง จึงมอบศพให้พ่อและแม่ของเด็กนำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป