จากกรณีที่ นายสรฉัตร ผลวัฒนา อายุ 31 ปี เจ้าของฉายา “นัท โอนไว” โดนมิจฉาชีพ เปิดเฟซบุ๊กใช้รูปโปรไฟล์สาวสวย แชตมาคุยแล้วขอยืมเงิน สูญเงินไปเกือบ 9 หมื่นบาท ต่อมามีผู้หญิงใช้รูปโปรไฟล์สวย ชื่อ ธัญธร ทักเข้ามาแชตพูดคุยกับนัท โอนไว บอกว่าทำธุรกิจรีสอร์ตเล็กๆ ที่ จ.กาญจนบุรี ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมมีปัญหา หมุนเงินไม่ทัน และต้องการปรับปรุงห้องพัก จึงขอยืมเงินนายสรฉัตรมาหมุนในธุรกิจ แล้วจะรีบหาเงินมาคืนให้ ซึ่งนายสรฉัตร ก็ได้โอนไปให้สูญเงินรอบที่ 2 เป็นเงิน กว่า 36,100 บาท จากนั้นก็เริ่มติดต่อไม่ได้ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ เฟซบุ๊ก และไลน์ จามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ต.บุญโปรด แสงทับทิม สว.สส.สน.นางเลิ้ง ร.ต.อ.ทองธาดา การะเกตุ รอง สว.สส.สน.นางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ผ่องพรรณ หรือผ่องหรือครีม บุญชัย อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 365/1 ม.7 ต.ไทรโยก อ.ไทรโยก จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 347/2562 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ฐานความผิดฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหน้าโรงแรม เคที ถ.วิสุทธิ์กษัตริย์ แขวงบางขุนพหม เขดพระนคร กทม. เมื่อเวลา 17.00 น. ( 6 ธ.ค.) ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.นางเลิ้งได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.จันทบุรี ว่าน.ส.ผ่องพรรณ หรือผ่องหรือครีม บุญชัย อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่สน.นางเลิ้ง จึงได้ลงพื่นมี่หาข่าวจนทราบว่าผู้ต้องหาปรากฏตัวอยู่บริเวณโรงแรม เคที ถ.วิสุทธิ์กษัตริย์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบจนพบตัวน.ส.ผ่องพรรณ อยู่หน้าโรงแรมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมแสดงหมายจับ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.นางเลิ้ง สอบสวนน.ส.ผ่องพรรณ ให้การรับสารภาพว่า ตนรู้จักกับนายสรฉัตร ผ่านทางเฟสบุ๊คที่มีข่าวถูกหลอกว่าโอนเงินจนได้ฉายา นัทโอนไว ที่แรกตนไม่ได้คิดอะไรต่อมาตนอยากหาเงินใช้ประกอบกับอยากลองว่าฉายานัท โอนไวจะโอนไวตามนั้นหรือไม่จึงเปิดเฟสบุ๊คขึ้นมาโดยใช้ชื่อธัญธร ซึ่งตนนำรูปเน็ตไอดอล เวียดนามมาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ ซึ่งพูกคุยกันผ่านแชตประมาณ 3-4 วัน ก่อนจะลองขอยืมเงินโดยอ้างว่าธุระกิจรีสอร์ทที่ทำอยู่ติดขัดเรื่องเงินครั้งแรกขอยืมไป 20,000 บาท และยืมต่อๆมาครั้งละ 500 - 10,000 บาทรวมแล้วประมาณ 4 ครั้งเป็นเงิน 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งหลังจากได้เงินมาก็นำไปใช้จ่ายส่วนตัว และไม่ได้ติดต่อกลับไปหานายนัทอีก กระทั้งมาถูกจับกุม ตนยอมรับว่าได้หลอกนายนัทจริง ซึ่งตนทำงานรับจ้างทั่วไปไม่ได้ประกอบธุระกิจรีสอร์ทใดๆทั้งนั้น ที่ทำไปแค่อยากลองว่าจะโอนมาให้ตนตามที่เป็นข่าวจริงหรือไม่เท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะส่งตัวน.ส.ผ่องพรรณ ไปยังสภ.เมืองจันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป