ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันนี้(6ธ.ค.)ดัชนีปิดที่ 1,568.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.31 จุด (+0.21%) มูลค่าการซื้อขาย 21,630.15 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,575.79 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,566.79 จุด นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากที่ปรับตัวลงไปมากแล้วในหลายวันที่ผ่านมา อีกทั้งเมื่อวานนี้ตลาดบ้านเราปิดทำการ แต่ตลาดในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวขึ้นกันหมด ขานรับความคาดหวังเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะออกมาดี หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯระบุว่าการเจรจาการค้ากับจีนยังเดินหน้าอยู่ แต่ยังต้องติดตาม 15 ธ.ค.นี้ทางสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ยังมีรายงานข่าวออกมาว่าทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) และพันธมิตรจะลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 5 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งทำให้ไปช่วยหนุนราคาน้ำมันและทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานต่างปรับตัวขึ้นมา รวมทั้งตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯลดลง โดยขาดดุลการค้ากับจีนน้อยลง ทำให้มองกันว่านโยบายที่ใช้อยู่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ดีให้รอดูว่าเงินบาทอ่อนค่าแล้วนักลงทุนต่างชาติยังขายอยู่หรือไม่ และให้รอดูว่าเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จะเข้ามาในตลาดฯได้เมื่อใด รวมถึงให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และตัวเลขการว่างงานในสหรัฐฯคืนนี้ด้วย ส่วนสัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้ ซึ่งตลาดฯคาดคงจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ให้รอดูสัญญาณการปรับดอกเบี้ยในปีหน้า แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,615.45 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท,AOT มูลค่าการซื้อขาย 957.85 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท,ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 902.63 ล้านบาท ปิดที่ 212.00 บาท ลดลง 2.00 บาท,PTT มูลค่าการซื้อขาย 655.55 ล้านบาท ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท, BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 576.22 ล้านบาท ปิดที่ 53.50 บาท ลดลง 0.75 บาท