เมื่อ เกษมกิจกรุ๊ป ได้พัฒนากลุ่มโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ โดยได้ทุ่มงบรีโนเวตโรงแรม พร้อมลงทุนโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง ในเมืองพัทยา และจังหวัดขอนแก่น เพื่อรองรับการท่องเที่ยวไทยที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ร่วมทั้งในเวลานี้ยังได้เปิดตัวร้านอาหารล่องใต้ กับพันธมิตรการค้าครั้งแรก เพื่อตอบโจทย์ของการพักผ่อนที่ โรงแรมเคป ฟาน เกาะสมุย โดย นางธีรวัลคุ์ เตชะอุบล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการกลุ่มโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ได้สะท้อนแผนการตลาดได้อย่างน่าสนใจ สร้างโรงแรมในพัทยา-ขอนแก่น ทั้งนี้ นางธีรวัลคุ์ เตชะอุบล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการกลุ่มโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ กล่าวว่า มีแผนลงทุนไม่ตํ่ากว่า 3,105 ล้านบาท สร้างโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จอีก 3 ปีข้างหน้า รวมห้องพักราว 520-540 ห้อง ส่งผลให้มีโรงแรมในเครือเพิ่มขึ้นเป็น 26 แห่ง รวมห้องพักราว 4,358-4,378 ห้อง จากปัจจุบันที่มีโรงแรมในมือ 23 แห่ง รวมห้องพัก 3,838 ห้อง ภายใต้แบรนด์เคป คอลเลคชั่น แคนทารี คอลเลคชั่น คามิโอ คอลเลคชั่น และซัมแวร์ เกาะสีชัง โดยโครงการโรงแรมใหม่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้าง 2 โรงแรมในพื้นที่ 15 ไร่ บริเวณพัทยาสาย 1 เชื่อมสาย 2 ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา ลงทุนราว 2 พันล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีหน้า โดยจะสร้างโรงแรมภายใต้แบรนด์เคป คอลเลคชั่น เป็นบูติกรีสอร์ต 5 ดาวขนาด 80 ห้อง เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยว (เลเชอร์) และโรงแรมภายใต้แบรนด์แคนทารี คอลเลคชั่น ระดับ 4 ดาว ขนาด 260 ห้อง เน้นกลุ่มลองสเตย์ ส่วนอีกหนึ่งโครงการจะเป็นการก่อสร้างโรงแรมภายใต้แบรนด์แคนทารี คอลเลคชั่น ที่จังหวัดขอนแก่น ขนาด 180-200 ห้อง เพื่อรองรับตลาดนักธุรกิจ ลงทุนประมาณ 700-800 ล้านบาท รีโนเวทโรงแรมรับเทรนด์ตลาด ซึ่ง นางธีรวัลคุ์ กล่าวว่า เวลานี้สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งสงครามการค้าระหว่างจีน และอเมริกา ปัญหาเบร็กซิต ในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่า จึงทำให้ทางกลุ่มโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ใช้ช่วงเวลาที่วิกฤตนี้มาปรับปรุงโรงแรมเดิมที่มีอยู่ เพื่อปรับโฉมใหม่ให้ทันกับเทรนด์ของตลาดที่แล้วเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยงบที่ใช้ไปประมาณ 345 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยัง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโรงแรมที่มีอยู่ เช่น การทำงานร่วมกับพันธมิตรครั้งแรก โดยมีนายเดวิด ทอมป์สัน เชฟชาวออสเตรเลียซึ่งได้รับการยกย่องระดับโลกด้านการปรุงอาหารไทย และเป็นเจ้าของร้านอาหารน้ำที่ได้ดาวมิชลิน เปิดร้านอาหารใต้แห่งใหม่ภายในโรงแรมเคป ฟาน ชื่อ ล่องใต้ ซึ่งได้ปรับรูปแบบร้านอาหารด้วยงบประมาณเพิ่มอีก 10 ล้านบาท จากเดิมที่ลงทุนไปประมาณ 40 ล้านบาทเพื่อให้สอดรับกับร้านล่องใต้ ที่มุ่งเน้นปรุงอาหารพื้นฐานจากวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่รอบข้าง และจังหวัดใกล้เคียง โดยจะทำให้ลูกค้าสามารถลิ้มรสอาหารในทุกช่วงเวลาของปีด้วยเมนูอาหารไม่ซ้ำกันจากวัตถุดิบตามฤดูกาล เป็นการสร้างประสบการณ์พิเศษด้านการท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร สำหรับการทำงานร่วมกับ นายเดวิด ทอมป์สัน เชฟมิชลิน ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้บริโภคในการเข้ามาใช้บริการห้องพักในโรงแรม ซึ่งน่าจะกระตุ้นให้ผู้เข้ามาพักเพิ่มมากขึ้น และสร้างความจดจำในแบรนด์สินค้า คือ ตัวโรงแรมเคป ฟาน เกาะสมุย ได้มากขึ้น โดยมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธันวาคม 2562 เร่งหาตลาดนักท่องเที่ยวในกลุ่มใหม่ อย่างไรก็ตาม นางธีรวัลคุ์ ยังกล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจโรงแรมในปีนี้ ว่า จากปัญหาเศรษฐกิจโลกและเงินบาทแข็งค่า ก็ทำให้มีการเดินทางเที่ยวต่างประเทศลดลง โดยโรงแรมที่รองรับตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มเลเชอร์ เช่นโรงแรมที่ภูเก็ต จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากลูกค้ากว่า 60% เป็นยุโรป ส่วนโรงแรมที่รองรับนักธุรกิจหรือกลุ่มคอร์ปอเรต ยังมีผลประกอบการที่ดี เนื่องจากมีการลงทุนใหม่ตามโรงงานอุตสาหกรรม ที่ทางเครือมีโรงแรมครอบคลุมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ อยู่หลายแห่ง ซึ่งตลาดนี้ส่วนใหญ่ลูกค้าหลักเป็นชาวญี่ปุ่นกว่า 50% ยุโรป 30% แต่ด้วยความที่ตลาดเลเชอร์ ได้รับผลกระทบ จึงทำให้ภาพรวมของอัตราการเข้าพักของโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี ลดลงไปประมาณ 10-15% ดังนั้นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของทางเครือจึงต้องเร่งหาตลาดนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศใหม่ๆ เพื่อมานำมาทดแทนกลุ่มเดิมที่ลดลง หรือชะลอการเดินทาง