เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. พ.ต.ท.นิรันดร์ โสมะคุณานนท์ รองผกก.(สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุมีคนร้ายชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทย สาขาถนนพัฒนาการ เลขที่ 1522 และ 1524 ซอยพัฒนาการ 48 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 พ.ต.ท.เรวัช ราชสังข์ รองผกก.สส.สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน
ที่เกิดเหตุอยู่ปากซอยพัฒนาการ 48 ติดริมถนนพัฒนาการฝั่งขาเข้า เป็นอาคารพาณิชย์เปิดเป็นธนาคาร ปลูกติดกัน 2 คูหา สูงจำนวน 4 ชั้น ด้านนอกมีตู้บริการฝาก-ถอนเงิน 2 ตู้ และตู้ปรับสมุดบัญชี 1 ตู้ ส่วนด้านในเป็นจุดบริการสำหรับลูกค้าที่ติดต่อทำธุรกรรมการเงินจำนวน 3 เคาน์เตอร์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบพนักงานธนาคาร 3-4 คน อยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ ซึ่งพนักงานธนาคารดังกล่าวพร้อมพลเมืองดีสามารถควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือนายพิชิต ศรีใสคำ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหา (อาชีพพนักงานไลน์แมน) อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 2 ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ อยู่ในสภาพถูกล็อคตัวไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังพบรถจยย.ฮอนด้า เวฟไอ สีขาวคาดแดง ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน อาวุธปืนปลอมสีดำ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง คีม 1 อัน สนับมือ 1 อัน กระเป๋าใบใหญ่สีเทา 1 ใบ เสื้อแจ๊กเก็ตไลน์แมน หมวกกันเต็มใบสีน้ำเงินแดง 1 ใบ ก่อนจะคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวนต่อยัง สน.คลองตัน
พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า จากการปากคำพนักงานธนาคารทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.40 น. ขณะที่ตนกับพนักงานคนอื่นอีก 3-4 คน กำลังปฏิบัติหน้าที่บริการลูกค้าที่มาใช้บริการบริเวณหน้าเคาน์เตอร์อยู่ จู่ๆมีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 160-165 ซม. ขับรถจยย.ฮอนด้า เวฟไอ สีขาวคาดแดง มาจอดติดเครื่องไว้บริเวณด้านหน้าธนาคาร สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีน้ำเงินแดง แจ็คเก็ตสีดำแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ เดินเข้ามาและพยายามกระโดดเข้ามาภายในเคาน์เตอร์ช่องที่ 2 พร้อมกับตะโกนว่า "นี่คือการปล้น" หลังจากสิ้นเสียงของคนร้าย ตนจึงขว้ากระเป๋าคาดหน้าอกของคนร้ายจนเสียหลักล้มลงมาในเคาน์เตอร์ จากนั้นได้ตะโกนให้เพื่อนพนักงานและพลเมืองดีเข้ามาควบคุมตัวก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัวดังกล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้ลงมือก่อเหตุจริงโดยทำเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขับรถจยย.ตระเวนดูธนาคารต่างๆในบริเวณใกล้เคียงจำนวน 2-3 แห่ง ก่อนจะมาดูที่ธนาคารดังกล่าวพบว่าไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยจึงตัดสินใจลงมือเข้าไปก่อเหตุส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากไม่ทีเงินเช่าห้องพักเป็นเวลา 2 เดือน จนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปค้นห้องเช่าในซอยรามคำแหง 1/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบว่าเคยก่อเหตุอาชญากรรมแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "พยายามชิงทรัพย์ ,พกพาสิ่งเทียมอาวุธปืน ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ"
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับธนาคารดังกล่าวเคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2561 ซึ่งคนร้ายก่อเหตุโดยสวมหมวกกันน็อคสีขาวเต็มใบและใช้รถจยย.ฮอนด้าเวฟ น้ำเงินเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้เงินสดไปจำนวน 105,320 บาท หลบหนีไป ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านสมุทรปราการช่วงเย็นของวันที่ 2 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า จากการปากคำพนักงานธนาคารทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.40 น. ขณะที่ตนกับพนักงานคนอื่นอีก 3-4 คน กำลังปฏิบัติหน้าที่บริการลูกค้าที่มาใช้บริการบริเวณหน้าเคาน์เตอร์อยู่ จู่ๆมีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 160-165 ซม. ขับรถจยย.ฮอนด้า เวฟไอ สีขาวคาดแดง มาจอดติดเครื่องไว้บริเวณด้านหน้าธนาคาร สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีน้ำเงินแดง แจ็คเก็ตสีดำแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ เดินเข้ามาและพยายามกระโดดเข้ามาภายในเคาน์เตอร์ช่องที่ 2 พร้อมกับตะโกนว่า "นี่คือการปล้น" หลังจากสิ้นเสียงของคนร้าย ตนจึงขว้ากระเป๋าคาดหน้าอกของคนร้ายจนเสียหลักล้มลงมาในเคาน์เตอร์ จากนั้นได้ตะโกนให้เพื่อนพนักงานและพลเมืองดีเข้ามาควบคุมตัวก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัวดังกล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้ลงมือก่อเหตุจริงโดยทำเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขับรถจยย.ตระเวนดูธนาคารต่างๆในบริเวณใกล้เคียงจำนวน 2-3 แห่ง ก่อนจะมาดูที่ธนาคารดังกล่าวพบว่าไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยจึงตัดสินใจลงมือเข้าไปก่อเหตุส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากไม่ทีเงินเช่าห้องพักเป็นเวลา 2 เดือน จนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปค้นห้องเช่าในซอยรามคำแหง 1/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบว่าเคยก่อเหตุอาชญากรรมแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "พยายามชิงทรัพย์ ,พกพาสิ่งเทียมอาวุธปืน ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ"
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับธนาคารดังกล่าวเคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2561 ซึ่งคนร้ายก่อเหตุโดยสวมหมวกกันน็อคสีขาวเต็มใบและใช้รถจยย.ฮอนด้าเวฟ น้ำเงินเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้เงินสดไปจำนวน 105,320 บาท หลบหนีไป ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านสมุทรปราการช่วงเย็นของวันที่ 2 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา