เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562 พลโท สุภโชคธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 ร่วมแถลงข่าวกรณีที่ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายปฏิบัติการกวดขันปราบปรามจับกุมในคดียาเสพติดของกลางรายใหญ่ได้ของกลางเป็นยาเสพติดประเภท 1 เกือบ 7 ล้านเม็ด ที่ลานหน้าตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ถนนส่วนราชการ ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย โดยมี พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน , พลตำรวจตรี วันชัย สุวรรณศิริเขต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 , ว่าที่ ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, พลตำรวจตรี ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, พันเอก พักตร์พงษ์ เงสันเทียะ หัวหน้าฝ่ายนโยบายแผนและการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย, นายคณิศร ภาภีรนนท์ ผู้อำนวยการส่วนบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , พันเอก สุดเขตต์ ศรีนิลทิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 31, พันโท กฤษฒิชัย กองกิจ เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 , ร้อยตำรวจเอก เกษม ปันชู ผู้บังคับหมวด ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 พร้อมคณะนายทหารฝ่ายอำนวยการ ผู้บังคับบัญชาฝ่ายปกครอง พร้อมคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตลอดทั้งผู้เกี่ยวข้อง โดยมี สื่อมวลชน ตลอดทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องร่วมรับฟังรายละเอียดเป็นจำนวนมาก
การแถลงรายละเอียด ต่อกรณีที่เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเชียงของ จังหวัดเชียงราย ออกปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งนี้ ของกลางเป็นยาเสพติดประเภท 1 ชนิดเมทแอมเฟตามีน จำนวน 6,800,000 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 20.30 น. พันตำรวจเอก ถนัด พลพานิช ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเชียงของ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะผ่านเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้สั่งการให้เจ้าที่ตำรวจ สภ.เชียงของ ทำการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมา เวลาประมาณ 21.45 น. ได้พบรถต้องสงสัย จำนวน 3 คัน ขับขี่ผ่านเข้ามาบริเวณจุดตรวจบนถนนหน้าวัดเทพนิมิตร บ้านห้วยเม็ง หมู่ที่ 6 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าตู้ยามเมืองกาญจน์ ตำบลริมโขง พบรถยนต์ต้องสงสัย 1 คัน ขับผ่านเข้าไปทางอำเภอเชียงของ ประมาณ 15 นาทีต่อมา รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับย้อนกลับมาและมุ่งหน้าไปทางบ้านม่วงกาญจน์ หมู่ที่ 6 ตำบลริมโขง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกตรวจสอบภายในหมู่บ้านม่วงกาญจน์ ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณลานอเนกประสงค์บ้านม่วงกาญจน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่ผู้ขับขี่ได้เร่งเครื่องยนต์เพื่อทำการหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปพร้อมได้ตะโกนสั่งให้หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมหยุด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปยังยางรถยนต์เพื่อให้หยุดและเพื่อสกัดการหลบหนี
ต่อมา รถยนต์คันดังกล่าวได้จอดทิ้งไว้ห่างจากจุดที่พบครั้งแรกประมาณ 100 เมตร แล้วมีชาย 2 คนวิ่งลงจากรถ หลบหนีไปโดยอาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ติดตามแต่ไม่ทัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ได้พบกระสอบวางอยู่บริเวณกระบะบรรทุก จำนวน 34 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติด รวมจำนวนทั้งสิ้น 6,800,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึด ต่อมาชุดตรวจยึดจับกุมจึงได้นำของกลางยาเสพติดประเภท 1 ชนิดเมทแอมเฟตามีนจำนวน 6,800,000 เม็ดดังกล่าว ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พลตำรวจตรี ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ยังได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือมายังประชาชนให้ร่วมกันสอดส่องดูพฤติกรรมของคนแปลกหน้าต่างถิ่นที่น่าสงสัยว่าจะมีพฤติการณ์ที่กระทำความผิดกฎหมาย หรือมีรถของขบวนการลำเลียงยาเสพติดที่หลบเลี่ยงด่านตรวจผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดที่อาจสร้างความเสียหายและความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยสามารถแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสทางโทรศัพท์ที่สายด่วน 1559 หรือสายด่วน 191 หรือ line@inthanon1 หรือ Application Police 1 lert U ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
การแถลงรายละเอียด ต่อกรณีที่เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเชียงของ จังหวัดเชียงราย ออกปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งนี้ ของกลางเป็นยาเสพติดประเภท 1 ชนิดเมทแอมเฟตามีน จำนวน 6,800,000 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 20.30 น. พันตำรวจเอก ถนัด พลพานิช ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเชียงของ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะผ่านเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้สั่งการให้เจ้าที่ตำรวจ สภ.เชียงของ ทำการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมา เวลาประมาณ 21.45 น. ได้พบรถต้องสงสัย จำนวน 3 คัน ขับขี่ผ่านเข้ามาบริเวณจุดตรวจบนถนนหน้าวัดเทพนิมิตร บ้านห้วยเม็ง หมู่ที่ 6 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าตู้ยามเมืองกาญจน์ ตำบลริมโขง พบรถยนต์ต้องสงสัย 1 คัน ขับผ่านเข้าไปทางอำเภอเชียงของ ประมาณ 15 นาทีต่อมา รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับย้อนกลับมาและมุ่งหน้าไปทางบ้านม่วงกาญจน์ หมู่ที่ 6 ตำบลริมโขง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกตรวจสอบภายในหมู่บ้านม่วงกาญจน์ ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณลานอเนกประสงค์บ้านม่วงกาญจน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่ผู้ขับขี่ได้เร่งเครื่องยนต์เพื่อทำการหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปพร้อมได้ตะโกนสั่งให้หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมหยุด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปยังยางรถยนต์เพื่อให้หยุดและเพื่อสกัดการหลบหนี
ต่อมา รถยนต์คันดังกล่าวได้จอดทิ้งไว้ห่างจากจุดที่พบครั้งแรกประมาณ 100 เมตร แล้วมีชาย 2 คนวิ่งลงจากรถ หลบหนีไปโดยอาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ติดตามแต่ไม่ทัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ได้พบกระสอบวางอยู่บริเวณกระบะบรรทุก จำนวน 34 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติด รวมจำนวนทั้งสิ้น 6,800,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึด ต่อมาชุดตรวจยึดจับกุมจึงได้นำของกลางยาเสพติดประเภท 1 ชนิดเมทแอมเฟตามีนจำนวน 6,800,000 เม็ดดังกล่าว ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พลตำรวจตรี ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ยังได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือมายังประชาชนให้ร่วมกันสอดส่องดูพฤติกรรมของคนแปลกหน้าต่างถิ่นที่น่าสงสัยว่าจะมีพฤติการณ์ที่กระทำความผิดกฎหมาย หรือมีรถของขบวนการลำเลียงยาเสพติดที่หลบเลี่ยงด่านตรวจผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดที่อาจสร้างความเสียหายและความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยสามารถแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสทางโทรศัพท์ที่สายด่วน 1559 หรือสายด่วน 191 หรือ line@inthanon1 หรือ Application Police 1 lert U ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง