ธ.ก.ส.จ่ายเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2562/63 สร้างความมั่นคงด้านรายได้แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ โดยประกันรายได้หัวมันสดเชื้อแป้ง 25% กิโลกรัมละ 2.50 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน วงเงินกว่า 9,442 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 524,000 ครัวเรือน โอนรอบแรกเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงที่เปิดไว้กับ ธ.ก.ส.กว่า 2,781 ราย จำนวนเงินกว่า 64 ล้านบาท ดีเดย์ 1 ธั.ค.นี้
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.62ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน Kick Off การจ่ายเงินประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรตาม “โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2562/63” โดยมีนายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และผู้แทนจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 และมติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 29 พ.ย.62 โดยนายอุตตม สาวนายน รมว.คลังและประธานกรรมการ ธ.ก.ส.เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2562/63 เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังมีรายได้ที่แน่นอนจากการประกันรายได้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำและสร้างความมั่นคงในอาชีพ
ทั้งนี้มีเป้าหมายเกษตรกร 524,000 ครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 9,442.34 ล้านบาท โดยประกันรายได้หัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% ในพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ กิโลกรัมละ 2.50 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 ต.ค.62-31ธ.ค.63 โดยการจ่ายเงินในครั้งนี้มีเกษตรกรได้รับเงินประกันรายได้จำนวน 2,781 ราย เป็นเงิน 64,032,000 บาท
สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังต้องขึ้นทะเบียนผู้ปลูกและแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ 1 ต.ค.61 เป็นต้นมา จึงจะได้รับสิทธิ์ประกันรายได้ในโครงการนี้ มีระยะเวลาใช้สิทธิ์ตามช่วงการเก็บเกี่ยวที่ระบุไว้ในทะเบียนเกษตรกร ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจะทำการตรวจสอบข้อมูล แล้วส่งมายัง ธ.ก.ส.เพื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ซึ่งเงินประกันรายได้ดังกล่าวเป็นส่วนต่างระหว่างราคามันสำปะหลังที่ประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่กำหนดโดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง(นบมส.) โดยใช้ราคาเฉลี่ยรับซื้อหัวมันสำปะหลังจากจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ครอบคลุมทุกภูมิภาค
ทั้งนี้เริ่มจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างการประกันรายได้ ครั้งแรกวันที่ 1 ธ.ค.62 และจ่ายต่อไปทุกวันที่ 1 ของเดือน รวม 12 ครั้ง (ถึงเดือนพ.ย.63) สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธ.ค.62 จะได้รับเงินชดเชยในวันที่ 1 ธ.ค.62 ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบการรับสิทธิ์การโอนเงินได้ที่ Link: http://chongkho.inbaac.com หรือที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยรัฐบาลยังมีมาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาการผลิตของเกษตรกรควบคู่การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มคุณภาพของมันสำปะหลัง รวมถึงลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรวงเงินกู้รวม 1,150 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 5,000 ราย รายละไม่เกิน 230,000 บาท ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.875 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 24 เดือน
นอกจากนี้ยังมีโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ซึ่ง ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับมันสำปะหลังหรือสถาบันเกษตรกรที่มีสมาชิกประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อหัวมันสำปะหลัง รวมทั้งเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์หรือใช้ในกิจการของสถาบันเกษตรกร วงเงินกู้รวม 1,500 ล้านบาท ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน
ทั้งนี้มีเป้าหมายเกษตรกร 524,000 ครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 9,442.34 ล้านบาท โดยประกันรายได้หัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% ในพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ กิโลกรัมละ 2.50 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 ต.ค.62-31ธ.ค.63 โดยการจ่ายเงินในครั้งนี้มีเกษตรกรได้รับเงินประกันรายได้จำนวน 2,781 ราย เป็นเงิน 64,032,000 บาท
สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังต้องขึ้นทะเบียนผู้ปลูกและแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ 1 ต.ค.61 เป็นต้นมา จึงจะได้รับสิทธิ์ประกันรายได้ในโครงการนี้ มีระยะเวลาใช้สิทธิ์ตามช่วงการเก็บเกี่ยวที่ระบุไว้ในทะเบียนเกษตรกร ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจะทำการตรวจสอบข้อมูล แล้วส่งมายัง ธ.ก.ส.เพื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ซึ่งเงินประกันรายได้ดังกล่าวเป็นส่วนต่างระหว่างราคามันสำปะหลังที่ประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่กำหนดโดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง(นบมส.) โดยใช้ราคาเฉลี่ยรับซื้อหัวมันสำปะหลังจากจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ครอบคลุมทุกภูมิภาค
ทั้งนี้เริ่มจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างการประกันรายได้ ครั้งแรกวันที่ 1 ธ.ค.62 และจ่ายต่อไปทุกวันที่ 1 ของเดือน รวม 12 ครั้ง (ถึงเดือนพ.ย.63) สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธ.ค.62 จะได้รับเงินชดเชยในวันที่ 1 ธ.ค.62 ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบการรับสิทธิ์การโอนเงินได้ที่ Link: http://chongkho.inbaac.com หรือที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยรัฐบาลยังมีมาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาการผลิตของเกษตรกรควบคู่การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มคุณภาพของมันสำปะหลัง รวมถึงลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรวงเงินกู้รวม 1,150 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 5,000 ราย รายละไม่เกิน 230,000 บาท ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.875 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 24 เดือน
นอกจากนี้ยังมีโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ซึ่ง ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับมันสำปะหลังหรือสถาบันเกษตรกรที่มีสมาชิกประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อหัวมันสำปะหลัง รวมทั้งเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์หรือใช้ในกิจการของสถาบันเกษตรกร วงเงินกู้รวม 1,500 ล้านบาท ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน