บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาศักยภาพเยาวชนโดยสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียน ครู และโรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคผ่านโครงการ “กลุ่มอินทัชสร้างโอกาสทางการศึกษา” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 รวมกว่า 25 ล้านบาท พร้อมรณรงค์ให้ร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม นายเอนก พนาอภิชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการฯ อินทัช และบริษัทในกลุ่ม คือ เอไอเอส และไทยคมมอบทุนการศึกษาไปแล้ว 3,486 ทุน รวมเป็นเงินกว่า 25 ล้านบาทใน 20 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค อาทิ แม่ฮ่องสอน น่าน สุรินทร์ บุรีรัมย์ กาญจนบุรี เพชรบุรี ยะลา และปัตตานี เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งให้กำลังใจกับคุณครูผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตของชาติ สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินโครงการเพื่อสังคมของอินทัชภายใต้แนวคิด “คนไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” ที่เน้นการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้มีโอกาสในการเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของพัฒนาสังคม และประเทศให้เจริญก้าวหน้า ”
ในปี 2562 อินทัช ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาคัดเลือกผู้ที่จะรับทุนจากโรงเรียนต่างๆ ใน 7 เขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งหมด 340 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 2,924,000 บาท
แบ่งเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความตั้งใจเรียน มีความประพฤติดี ครอบครัวมีรายได้น้อยเพื่อรับทุนการศึกษาจำนวน 300 ทุนๆ ละ 5,000 บาท ทุนครู 20 ทุนๆ ละ 20,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณครูที่มีความมุมานะ อุตสาหะ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความพากเพียร รวมทั้งทุนสนับสนุนโรงเรียนจำนวน 20 ทุน เพื่อนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อการเรียนการสอน และปรับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เอนก  พนาอภิชน มอบทุนให้เด็กๆ เด็กและคุณครูที่ได้รับทุน และเพื่อช่วยกันลดปริมาณขยะและปลูกฝังนิสัยรักษาสิ่งแวดล้อม ภายในงานจึงได้ส่งเสริมให้นักเรียน และครูใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารที่ทำจากฟางข้าวสาลีเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ทดแทนการใช้พลาสติก หรือโฟมที่ยากแก่การย่อยสลาย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กๆ ด้วยกิจกรรมเกม Knowledge Rally ผ่านสื่อการเรียนรู้แขนงต่างๆ ภายในห้องนิทรรศการ AIS อาทิ เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา สาธารณสุข การเกษตร และความรู้รอบตัว เป็นต้น กิจกรรม Knowledge Rally กิจกรรม Knowledge Rally ด.ญ.วสิตา นิลประไพ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนตำบลโคกกรวด (ผดุงรัฐประชานุกูล) ต.โคกกรวด อ.เมือง ตัวแทนนักเรียนที่ได้รับทุนกล่าวว่า “ครอบครัวหนูมีคุณแม่เป็นคนหาเงินเพียงคนเดียว หนูจึงรู้สึกดีใจมากที่ได้รับทุน เพราะจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ และเป็นทุนเรียนหนังสือต่อ หนูจะตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือ เพราะโตขึ้นหนูอยากเป็นหมอจะได้รักษาแม่ ยาย และทวดคะ” การแยกทิ้งขยะให้ถูกถัง นายสุวิทย์ ท้าวนอก อายุ 26 ปี ครูโรงเรียนบ้านหนองหมาก ต.คลองม่วง อ.ปากช่อง หนึ่งในครูที่ได้รับทุน กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “ปลื้มใจ และภูมิใจที่อินทัชเห็นความสำคัญของครูคนหนึ่งที่มีความตั้งใจที่จะพัฒนาตน พัฒนาคน และพัฒนางานเพื่อให้เกิดผลต่อการพัฒนาการศึกษาของนักเรียน ผมใช้หลักพรหมวิหาร 4 ในการทำงานและดูแลเด็กๆ ด้วยใจ นักเรียนก็จะให้ใจเรากลับมาเช่นกัน ผมจะนำทุนที่ได้รับไปจัดกิจกรรมที่ส่งเสริม ปลูกฝังเรื่องคุณธรรม และจริยธรรมให้กับนักเรียน เช่น สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ และนักกลอนคุณธรรม เพราะเมื่อพวกเขามีคุณธรรม จริยธรรมก็จะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน และนำความรู้ ความสามารถที่ได้รับไปพัฒนาชุมชนของตนเอง ดังคำกลอนที่ว่า “เมื่อมีกินอย่าลืมถิ่นที่เคยอยู่ เมื่อรอบรู้อย่าลืมครูที่เคยสอน เจอรักแท้อย่าลืมแม่ที่กอดนอน หายทุกข์ร้อนอย่าลืมธรรมที่นำทาง” ในส่วนของโครงการที่ขอรับทุนมีหลากหลายด้าน ทั้งการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมอาชีพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ของโรงเรียนชุมชนวัดรวง ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่ต้องการปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนรู้จักคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ช่วยลดปัญหาขยะ โดยนายประสงค์ ชูใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดรวง กล่าวว่า “คุณครูต้องให้ความรู้ ความเข้าใจกับเด็กๆ และให้ปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมในฐานต่างๆ เช่น กิจกรรมคัดแยกขยะ กิจกรรม Big Cleaning Day เป็นต้น นอกจากนี้ ในอนาคตจะนำเงินที่ได้ไปสร้างโรงเรือนคัดแยกขยะเพื่อให้มีการบริหารจัดการขยะในโรงเรียนที่ครบวงจร สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่โรงเรียนในเขตใกล้เคียง และชุมชนโดยรอบนำไปประยุกต์ใช้ได้” อินทัช มุ่งหวังว่าทุนการศึกษาที่มอบให้จะเป็นแรงผลักดันให้เด็กๆ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน คุณครูมีกำลังใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้เยาวชนเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศ สมกับคำกล่าวที่ว่า “การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ”