เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ณ กรมชลประทาน สามเสน กรุงเทพมหานคร คณะองคมนตรี ประกอบด้วย นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ,พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ,พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ,นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ,พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี , พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในฤดูแล้ง ปี 62/63 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ,กรมอุตุนิยมวิทยา ,กรุงเทพมหานคร ,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ,กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) โอกาสนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี กล่าวเปิดการประชุม และกล่าวถึงความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ จากนั้น ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานได้รายงานสถานการณ์น้ำ ปัจจุบันทั้งประเทศ (28 พ.ย. 62) มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมประมาณ 49,558 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 65 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 25,548 ล้าน ลบ.ม. สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 มีอยู่ด้วยกัน 7 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำนางรอง เขื่อนทับเสลา และเขื่อนกระเสียว ปริมาณน้ำที่มีอยู่ เขื่อนเหล่านี้สามารถสนับสนุนได้เฉพาะการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ เท่านั้น สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักได้แก่เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ฯ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 11,700 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 5,004 ล้าน ลบ.ม. วางแผนจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนได้เฉพาะการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และไม้ผลไม้อื่นต้น เท่านั้น กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2562/63 ไว้อย่างรัดกุม โดยภาพรวมทั่วประเทศจัดสรรไว้ปริมาณ 29,039 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะในช่วงเดือน พฤศจิกายน2562 - เมษายน2563 ได้จัดสรรน้ำไว้ 17,699 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 61 ของปริมานน้ำต้นทุน จะเน้นสนับสนุนเฉพาะการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ ก่อนเป็นหลัก ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 11,340 ล้าน ลบ.ม. จะสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปี 2563 ช่วงเดือน พฤษภาคมถึงกรกฎาคม2563 ทั้งนี้ โครงการชลประทานทุกพื้นที่จะต้องบริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด และให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ตลอดเวลา รวมทั้งให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศ บูรณาการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในเรื่องของสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้ตลอดในช่วงฤดูแล้งนี้.