นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ "โครงการสัมมนาผู้นำทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2562 (Thailand's Education Leader Symposium: TELS 2019)" จัดโดยบริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีนายตะวัน เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน), รศ. ดร. ศิริเดช สุชีวะ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตลอดจนผู้บริหารการศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษา เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน ณ อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี
รมว.กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาสื่อสารแนวทางการปฏิรูป และพัฒนาการศึกษาไทยให้ผู้บริหารการศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาได้รับทราบ โดยรัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในเอเชีย และมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก กระทรวงศึกษาธิการซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญ ในการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ ต้องมีความพร้อมและมีแผนในการพัฒนาการศึกษา ที่สอดคล้องรองรับความต้องการกำลังคนในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่เป็นผลมาจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนเหล่านี้
โดยกระทรวงศึกษาธิการยินดีที่จะปลดล็อกการศึกษาไทย ด้วยการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว พร้อมทั้งทบทวนกฎระเบียบต่าง ๆ ที่อาจจะยังไม่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้เกิดอุปสรรคในการบริหารจัดการการศึกษา รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาครู การพัฒนาหลักสูตรที่มุ่งเน้นการคิดวิเคราะห์ รวมถึงการคัดสรรสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้การจัดการศึกษาในสถานศึกษาทั่วประเทศ มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์ของเด็กและเยาวชนเป็นหลัก เนื่องจากเด็กแต่ละคนในแต่ละพื้นที่ ก็มีความต้องการ และมีปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน การดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่กระทรวงศึกษาธิการจะเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่
รมว.กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาสื่อสารแนวทางการปฏิรูป และพัฒนาการศึกษาไทยให้ผู้บริหารการศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาได้รับทราบ โดยรัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในเอเชีย และมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก กระทรวงศึกษาธิการซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญ ในการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ ต้องมีความพร้อมและมีแผนในการพัฒนาการศึกษา ที่สอดคล้องรองรับความต้องการกำลังคนในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่เป็นผลมาจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนเหล่านี้
โดยกระทรวงศึกษาธิการยินดีที่จะปลดล็อกการศึกษาไทย ด้วยการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว พร้อมทั้งทบทวนกฎระเบียบต่าง ๆ ที่อาจจะยังไม่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้เกิดอุปสรรคในการบริหารจัดการการศึกษา รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาครู การพัฒนาหลักสูตรที่มุ่งเน้นการคิดวิเคราะห์ รวมถึงการคัดสรรสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้การจัดการศึกษาในสถานศึกษาทั่วประเทศ มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์ของเด็กและเยาวชนเป็นหลัก เนื่องจากเด็กแต่ละคนในแต่ละพื้นที่ ก็มีความต้องการ และมีปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน การดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่กระทรวงศึกษาธิการจะเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่