วันนี้ 27 พ.ย.62 ที่ห้องประชุม สภ.เมืองชัยนาท ภ.จว.ชัยนาท พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) ประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าของคดีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นาย อดิศักดิ์ ภู่เอี่ยม(อดีตข้าราชการชลประทาน)จนเสียชีวิตที่เกิดเหตุบนถนน ซอย ชัยภรณ์ เรียบคลองโพธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยนาทเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 62 โดยมี พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ช่วยราชการ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชัชพิมุข มีมุข ผกก.สภ.เมืองชัยนาทเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 ป.เข้าร่วมในการประชุม พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เร่งรัดสืบสวนหาพยานหลักฐานในคดีตามที่ได้สั่งการเพิ่มเติม และให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้จงได้โดยเร็วและให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายในการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและเร่งรัดผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน,หัวกระสุนปืน,ปลอกกระสุนปืน ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ,ผลการตรวจจากนิติวิทยาศาสตร์โดยเร็วและให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุมกำกับดูแล สั่งการในคดีด้วยตนเอง โดยเฉพาะ หัวหน้าสถานีตำรวจ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 พร้อมได้กำชับเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยเน้นย้ำ อย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน,ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฎยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่างๆเพราะจะทำให้ข้อมูลความลับคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนรั่วไหล และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานร่วมกันเป็นทีม(teamwork) บูรณาการการข่าวร่วมกันทุกฝ่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน และให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ หากพบปัญหาให้รายงานให้ทราบ เน้นย้ำอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง และให้ ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ตั้งคณะทำงานสืบสวนและสอบสวนในคดีนี้ โดยให้ รอง ผบก. ที่รับผิดชอบงานสืบสวนและสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ โดยให้ทุกนายยึดหลักการทำงานแบบ "กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก"และ “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ” หลังเสร็จสิ้นการประชุมเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อจำลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ตรวจหาวัตถุพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติม