อีกรายลูกชายฆ่าแม่ แต่เป็นผู้ป่วยจิตเวชถูกแม่ดุว่าทำไมเดินตัวแข็งทื่อกลับไปกลับมากินยาหน่อย ด้วยอารมณ์ที่แปรปรวนจึงย่องมาด้านหลังขณะแม่นั่งล้างจานอยู่ใช้มีดพร้าฟันคอแม่จนสาหัสและเสียชีวิตอย่างอนาถในเวลาต่อมา พ่อเผยลูกชายกินยาไม่ต่อเนื่องอมไว้แล้วคายทิ้งจึงทำให้อารมณ์แปรปรวนจึงได้ก่อเหตุมาตุฆาตครั้งนี้
เรื่องนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 18.00 นวันที่ 27 พ.ย.พ.ต.ท.ยิ่งภิญโญ หล้าคำภา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ.จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบึงกาฬว่า มีผู้ป่วยถูกทำร้ายร่างกายมารักษาตัวได้เสียชีวิต ขอให้เดินทางไปชันสูตรศพ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผกก.ทราบเดินทางไปชันสูตร ทราบชื่อผู้ตาย นางทองลักษณ์ สิงหามาตย์ อายุ 73 ปีบ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 3 บ้านโนนสวาท ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ ถูกของมีคมฟันเข้าที่ต้นคอด้านขวาเป็นแผลฉีกขาดเหวอะหวะ ตั้งแต่ท้ายทอยใบหูขวายาวไปถึงแก้มขวา
จากการสอบสวน นายน้อย สิงหามาตย์ อายุ 72 ปี สามีผู้ตายทราบว่า ก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับภรรยาตนได้ออกไปธุระนอกบ้าน ผู้ตายได้อยู่บ้าน 2 คนกับ นายนิคม สิงหามาตย์ อายุ 52 ปีลูกชายซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชมาหลายปี รักษาตัวมานานแต่อาการก็ไม่หายขาดคุ้มดีคุ้มร้าย ขณะที่ผู้ตายนั่งล้างจานอยู่ที่ครัวหลังบ้าน ได้ถูกนายนิคมลูกชายย่องมาด้านหลัง ใช้มีดพร้าที่ปอกเปลือกมะพร้าวฟันเข้าที่ด้านหลังถูกต้นคอ ใบหูขวาและแก้มขวาเป็นแผลฉกรรจ์อาการสาหัส แต่ยังพอมีสติจึงคลานหนีตายเข้าไปในบ้าน และได้เรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เข้ามาช่วยเหลือเรียกญาติๆ หามขึ้นรถส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ แต่เนื่องจากจุดที่ถูกฟันเป็นเส้นเลือดใหญ่ส่งขึ้นไปเลี้ยงสมองฉีกขาดจึงไม่สามารถเย็บแผลและเส้นเลือดให้ติดกันได้ เลือดจึงไหลออกไม่หยุด ทำให้เสียเลือดมากและเสียชีวิตในเวลาต่อมาอย่างน่าเศร้าสลด
ด้านนางศรัญญา แสงเพชร อายุ 54 ปีน้องสาวผู้ตายเล่าว่าขณะนำส่ง รพ.ผู้ตายยังมีสติอยู่และเล่าให้ฟังว่า ใช้ลูกชายปอกเปลือกมะพร้าวเพื่อทำของหวานไปขายในเช้าวันถัดไปทุกวัน วันนี้ก็ปอกเสร็จไปแล้ว 9 ลูกกำลังจะบดเป็นกะทิ เห็นนายนิคมลูกชายเดินไปเดินมาหลายรอบ มีอาการผิดปกติจึงถามไปว่าทำไมเดินตัวแข็งทื่ออย่างนี้ และบอกให้ลูกชายไปกินยา จากนั้นก็นั่งล้างจานต่อโดยไม่คิดเฉลียวใจว่าลูกชายจะมาทำร้าย จังหวะนั้นนายนิคมจึงเดินถือมีดพร้าแอบย่องมาด้านหลังนางทองลักษณ์ ก่อนจะเงื้อมือถือมีดฟันลงที่คอผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าจนล้มฟุบลงกองกับพื้น ก่อนจะตะเกียกตะกายหนีตายเข้าไปในบ้านและเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือนำส่ง รพ.บึงกาฬ ส่วนการกินยารักษาอาการป่วยทางจิตที่ผ่านมาหลายครั้งมักจะอมยาเอาไว้ พอไม่มีคนเห็นก็แอบคลายทิ้ง จึงน่าจะเป็นสาเหตุเกิดเรื่องเศร้าวันนี้ขึ้น
ส่วนนายนิคมลูกชายหลังก่อเหตุมาตุฆาตได้หลบหนีออกจากบ้าน ถูก ร.ต.ท.ทวี นาฮี รอง สว.(ป.) หัวหน้าตู้ยามบ้านโนนสมบูรณ์ตามจับกุมตัวได้นำส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ เพื่อให้หมอฉีดยาระงับอาการฟุ้งซ่าน โดยถูกใส่กุญแจมือทั้ง 2 ข้างติดกับเตียงผู้ป่วย ก่อนที่จะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจิตเวชจังหวัดนครพนม โดยตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกอย่างไรที่ใช้มีดพร้าฟันแม่ตัวเอง โดยนายนิคมตอบว่าถูกแม่ดุและใช้บ่อย จึงโมโหใช้มีดที่ปอกมะพร้าวฟันคอแม่ ส่วนประวัตินายนิคมเมื่อ 10 กว่าปีก่อนได้บวชเป็นพระที่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ มีหนุ่มลูกศิษย์มากราบลาเจ้าอาวาสวัด คิดว่าเป็นคนจะมาฆ่าตัวเองจึงใช้มีดปลายแหลมแทงด้านหลังจนเสียชีวิต ถูกศาลตัดสินจำคุก 6 ปี
พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬเปิดเผยว่าคดีนี้หากผู้ก่อเหตุเป็นคนวิกลจริตหรือเป็นคนบ้าอย่างชัดเจนมีประวัติการรักษาที่ รพ.จิตเวช การกระทำความผิดก็ไม่ต้องรับโทษ แต่หากป่วยเป็นโรคจิตเวชเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวหายเดี๋ยวป่วยการกระทำความผิดก็จะต้องได้รับโทษบางส่วน หรือหากแพทย์ตรวจอาการแล้วยืนยันว่าขณะก่อเหตุได้ป่วยทางจิตเวชจริงก็อาจได้รับการยกเว้นในการรับโทษ.
ด้านนางศรัญญา แสงเพชร อายุ 54 ปีน้องสาวผู้ตายเล่าว่าขณะนำส่ง รพ.ผู้ตายยังมีสติอยู่และเล่าให้ฟังว่า ใช้ลูกชายปอกเปลือกมะพร้าวเพื่อทำของหวานไปขายในเช้าวันถัดไปทุกวัน วันนี้ก็ปอกเสร็จไปแล้ว 9 ลูกกำลังจะบดเป็นกะทิ เห็นนายนิคมลูกชายเดินไปเดินมาหลายรอบ มีอาการผิดปกติจึงถามไปว่าทำไมเดินตัวแข็งทื่ออย่างนี้ และบอกให้ลูกชายไปกินยา จากนั้นก็นั่งล้างจานต่อโดยไม่คิดเฉลียวใจว่าลูกชายจะมาทำร้าย จังหวะนั้นนายนิคมจึงเดินถือมีดพร้าแอบย่องมาด้านหลังนางทองลักษณ์ ก่อนจะเงื้อมือถือมีดฟันลงที่คอผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าจนล้มฟุบลงกองกับพื้น ก่อนจะตะเกียกตะกายหนีตายเข้าไปในบ้านและเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือนำส่ง รพ.บึงกาฬ ส่วนการกินยารักษาอาการป่วยทางจิตที่ผ่านมาหลายครั้งมักจะอมยาเอาไว้ พอไม่มีคนเห็นก็แอบคลายทิ้ง จึงน่าจะเป็นสาเหตุเกิดเรื่องเศร้าวันนี้ขึ้น
ส่วนนายนิคมลูกชายหลังก่อเหตุมาตุฆาตได้หลบหนีออกจากบ้าน ถูก ร.ต.ท.ทวี นาฮี รอง สว.(ป.) หัวหน้าตู้ยามบ้านโนนสมบูรณ์ตามจับกุมตัวได้นำส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ เพื่อให้หมอฉีดยาระงับอาการฟุ้งซ่าน โดยถูกใส่กุญแจมือทั้ง 2 ข้างติดกับเตียงผู้ป่วย ก่อนที่จะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจิตเวชจังหวัดนครพนม โดยตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกอย่างไรที่ใช้มีดพร้าฟันแม่ตัวเอง โดยนายนิคมตอบว่าถูกแม่ดุและใช้บ่อย จึงโมโหใช้มีดที่ปอกมะพร้าวฟันคอแม่ ส่วนประวัตินายนิคมเมื่อ 10 กว่าปีก่อนได้บวชเป็นพระที่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ มีหนุ่มลูกศิษย์มากราบลาเจ้าอาวาสวัด คิดว่าเป็นคนจะมาฆ่าตัวเองจึงใช้มีดปลายแหลมแทงด้านหลังจนเสียชีวิต ถูกศาลตัดสินจำคุก 6 ปี
พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬเปิดเผยว่าคดีนี้หากผู้ก่อเหตุเป็นคนวิกลจริตหรือเป็นคนบ้าอย่างชัดเจนมีประวัติการรักษาที่ รพ.จิตเวช การกระทำความผิดก็ไม่ต้องรับโทษ แต่หากป่วยเป็นโรคจิตเวชเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวหายเดี๋ยวป่วยการกระทำความผิดก็จะต้องได้รับโทษบางส่วน หรือหากแพทย์ตรวจอาการแล้วยืนยันว่าขณะก่อเหตุได้ป่วยทางจิตเวชจริงก็อาจได้รับการยกเว้นในการรับโทษ.