วันที่ 27 พ.ย.พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี นาย ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่า กกท และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ1 ทำเนียบรัฐบาล
ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าจากการประชุมคราวที่แล้ว ในประเด็นหลักการแนวทางการพัฒนาศูนย์ฝึกซ้อมกีฬาและศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา (ส่วนกลาง) ทั้งนี้ ให้เร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว และโครงการจัดสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ การจัดตั้งโรงพยาบาลกีฬา (Sports Hospital) การดำเนินงานด้านการปรับปรุงศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา การจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬา การปรับปรุงอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา
นอกจากนี้ที่ประชุมได้หารือในประเด็นเพื่อพิจารณา โดยมีประเด็นที่น่าสนใจในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนากีฬาให้เยาวชนและประชาชน และบุคลากรทางการกีฬา. ในส่วนภูมิภาคสู่ความเป็นเลิศ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเล่นกีฬาและออกกำลังกายในส่วนภูมิภาค
พลเอกประวิตร กล่าวย้ำ มีเรื่องที่จะขอเน้นย้า ดังนี้
1. การติดตามประเมินผล การดำเนินงานของ สมาคมกีฬาต่างๆ ตามตัวชี้วัดของ สคร. ขอให้พัฒนา ให้มีการสะท้อนถึงผลการ
แข่งขันด้วย ให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และให้การกีฬาแห่ง ประเทศไทย พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการ พัฒนาการกีฬาของชาติทั้งระบบ เพื่อเป้าหมาย สู่ความเป็นเลิศ ในอนาคต ต่อไป
2. การดำเนินงาน ตามแผนยุทธศาสตร์ของ กกท. ทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาอาชีพ ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การบริหารจัดการองค์กร และ การส่งเสริม อุตสาหกรรมกีฬา ขอให้ดำเนินงาน ให้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ และให้รายงานความคืบหน้า ประสิทธิผลการดำเนินงาน ให้ทราบด้วย
3. ในเรื่องหลักปฎิบัติปฎิรูปโอลิมปิก หรือ Olympic Agenda 2020 ที่ทาง IOC จะเริ่มใช้ เป็นหลักปฎิบัติในปีหน้า ขอให้ กกท. ได้พิจารณา ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกัน ได้แก่บทบาทการมีส่วนร่วมกับสังคมให้มากขึ้น หลักจริยธรรม จรรยาบรรณ ธรรมาภิบาล และความโปร่งใสการสนับสนุนนักกีฬาในด้านต่างๆ เรื่อง ทุนการศึกษา และด้านการงานอาชีพ รวมถึง ในด้านความเท่าเทียมทางเพศด้วย
4. ขอให้ศึกษา หาความเข้าใจ ดำเนินการให้สอดคล้องกัน
5. การปฎิบัติงานของ กกท. ขอให้ดำเนินการด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว ตรวจสอบได้ เป็นระบบมากยิ่งขึ้น มีการดำเนินงานตามสาย การบังคับบัญชาที่เข้มแข็ง รวมทั้ง มีความทันสมัย ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
ขอฝากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คณะกรรมการทุกท่าน คณะอนุกรรมการด้านต่างๆ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกัน พัฒนาการกีฬาของประเทศ ให้มีความก้าวหน้า ทัดเทียมสู่ระดับสากล ในอนาคตให้ได้ ต่อไป
