“มนัญญา”ชี้ ม็อบเสื้อดำกดดัน ยกเลิก 3 สาร ไม่มีผล ยัน ทำตามกฎหมาย ชี้ขอรอฟังมติคกก.วัตถุอันตรายพรุ่งนี้ ก่อนเดินหน้าต่อ ลั่น หากลบล้างมติเดิมต้องมีเหตุผลหนักแน่น เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงข้อสรุปเรื่องการแบน 3 สารพิษที่ล่าสุดมีกลุ่มเกษตรกรออกมาคัดค้านว่า ขอให้รอมติที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันพรุ่งนี้ก่อนแล้วจะดำเนินการอย่างไรก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่มีม็อบคัดค้านการแบนสารพิษ มากดดันแบบนี้จะมีผลต่อการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันที่ 26 พ.ย. หรือไม่ นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “สำหรับดิฉันเองไม่มีผล เพราะทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฎหมายและตามมติของคณะกรรมการที่มีออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่คณะกรรมการฯจะเดินหน้าไปแบบไหนมากกว่า และเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องหลายฝ่าย ก็ต้องให้หลายฝ่ายเป็นผู้ตัดสินดู ตอนนี้เรายื่นสุดมือแล้ว จากนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของทางคณะกรรมการฯที่จะตัดสินว่าจะออกมาเป็นแบบไหน” เมื่อถามว่าได้คุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯในเรื่องนี้บ้างหรือไม่ เพราะไม่เห็นด้วยกับการแบน 3 สารพิษนี้เหมือนกัน นางสาวมนัญญา กล่าวว่า วันนี้ก็เจอ แต่ไม่เห็นพูดอะไร เมื่อถามว่ามีแนวโน้มที่จะทำตามที่กลุ่มม็อบออกมาเรียกร้องหรือไม่ รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า หลังจากวันที่ 26 พ.ย.ก็จะมาประชุมกันอีกครั้งว่าจะมีแนวทางออกมาแบบไหน แต่ความจริง การลด ละ เลิก ก็เป็นนโยบายของนายกฯอยู่แล้วที่ต้องการจะลด ละ เลิก การใช้สารเคมีในประเทศไทยให้น้อยลง ซึ่งเราก็ทำตามนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ได้ทำอะไรแตกต่างเลย และเรื่องนี้ความจริงไม่ได้เกิดในสมัยนี้ แต่เกิดมานานแล้ว และเราก็มาสานต่อให้เป็นรูปธรรม “หากจะมีการเปลี่ยนแปลงมติครั้งแรก ในครั้งที่สองมันก็ต้องมีความหนักแน่นว่ามีเหตุผลอะไรที่จะไปลบล้างคำสั่งหรือมติครั้งแรกได้” รมช.เกษตรฯ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้เลิกใช้สารเคมีเหล่านี้ แล้วมีสารอะไรที่จะมาทดแทนหรือยัง นางสาวมนัญญา กล่าวว่า หากพูดถึงสารเคมีในประเทศไทยมีมาอยู่แล้ว แต่ที่จะนำเข้ามาเพื่อมาทดแทน 3 สารเคมีเหล่านี้ไม่มีแน่นอน ซึ่งในส่วนของสหกรณ์อาจจะมีการปรับเปลี่ยนมาเป็นเครื่องจักรแทน ส่วนที่มีการทำประชาพิจารณ์ พบว่าคนส่วนใหญ่ 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ไม่อยากให้มีการแบน 3 สารพิษนั้น ประชาพิจารณ์นี้ ตนไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหน มีคำสั่งมาหรือเปล่า ทุกอย่างก็ต้องมีลายลักษณ์อักษร “เราไม่เห็นว่า ที่ให้มาทำนั้น กลับมาทำอะไร ไม่ได้บอกว่าให้มาทำประชาพิจารณ์หรือให้กลับมาทำอะไร ตรงนี้เราไม่เห็นจึงไม่สามารถตอบได้ คำว่าประชาพิจารณ์มันต้องดูว่าจริงๆ แล้วช่องทางที่เกษตรกรจะเข้าถึงจริงๆ อยู่ตรงไหน เพราะทุกคนจะต้องเข้าถึงได้ในทุกช่องทาง ไม่ใช่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดและต้องประชาพิจารณ์ไปทุกจังหวัด เพราะเกษตรกรอยู่ทั่วประเทศไทย ต้องดูจากเปอร์เซ็นต์ด้วยว่าได้หรือไม่” รมช.เกษตรฯ กล่าว เมื่อถามว่าส่วนตัวยอมรับกับมติของคณะกรรมการฯที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “ขอเก็บเป็นความลับไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน แต่มีอยู่ในใจแล้วทุกอย่าง” เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้น่าจะมีอะไรซ่อนเร้น ถึงได้มีการเสนอให้มีการยืดมติออกไปอีก 6 เดือน หรือให้มีการทบทวนมติใหม่ นางสาวมนัญญา กล่าวว่า มันอาจจะมีอะไรก็ได้ ซึ่งเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจะมีอะไรต่อไป อย่างไรก็ตามคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรกับรัฐบาลโดยรวม