“มนัญญา" ส่งสัญญาณแรงถึง "สุริยะ" มีเหตุผลตอบคนไทยหรือไม่ หากเลื่อนแบน 3 สารพิษ กลับลำจากมติ 22 ต.ค.เพื่ออะไร ยันทำสุดมือในหน้าที่รับผิดชอบรักษาสุขภาพประชาชน เกษตรกร ไม่ชอบก้าวก่ายงานใคร เร่งกรมวิชาการเกษตร ส่งหนังสือแจงจัดเก็บสตอก3สาร 26พ.ย.ก่อนวันที่ประชุม คก.27 พ.ย. วันที่ 25 พ.ย. ที่สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานประชุมชี้แจงสหกรณ์จังหวัด 77 จังหวัด เพื่อให้รับทราบนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรที่มีผลกระทบหลังแบน 3 สารเคมี ที่จะมีผลวันที่1 ธ.ค.62 ว่า ขอให้ทุกพื้นที่เดินหน้านโยบายแบนสาร3ชนิด อย่าย้อนพูดถึงการจำกัดการใช้ ตอนนี้มาช่วยกันในเรื่องช่วยเหลือทำอย่างไรให้เกษตรกรสามารถเดินไปได้ พี่น้องคนไทยมีสุขภาพที่ดี ไม่ว่าวันที่ 27 พ.ย.นี้ จะมีผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จะออกมาอย่างไร จะเดินหน้าต่อไป ลดละเลิก ตามนโยบายรัฐบาล ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงไว้กับรัฐสภา ให้รับมาปฏิบัติอย่างเต็มที่เพื่อเกษตรกร ซึ่งพูดได้เต็มปาก ด้วยความภูมิใจ ดังนั้นการการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลทุกประการ น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ขณะนี้มีความสับสนในเรื่องการแบนสารว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรเนื่องจากกระทรวงเกษตรฯในส่วนหน่วยงานที่ตนดูแล กำลังเดินหน้าชี้แจงแนวปฏิบัติเพื่อให้มีการจัดเก็บสารเคมี ภายหลังวันที่1ธ.ค.เกษตรกรจะได้ไม่ทำผิดกฎหมาย แต่ปรากฏว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มาให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะมีการทบทวนและในส่วนของกระทรวงเกษตรฯก็มีคณะทำงานฯที่รมว.เกษตรฯตั้งขึ้นโดยปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธาน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่าอาจมีการเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งเรื่องนี้ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ตนได้มีคำสั่งให้กรมวิชาเกษตร ทำหนังสือชี้แจงมาภายในวันที่26 พ.ย.นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 27 พ.ย. “ในการประชุมวันที่22 ต.ค.62 มีมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ชัดเจนให้แบน3สาร กระทรวงเกษตรฯในฐานะปฏิบัติมาวางแนวทางรองรับไว้ครบถ้วน ภายใต้การเสนอของกรมวิชาการเกษตร ออกคำสั่งที่1511/2562 ที่กรมเป็นผู้เสนอว่าต้องดำเนินการเก็บคืนสารใน30วัน ลงนามโดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตร แต่รมว.อุตสาหกรรม กลับมาสื่อสารว่าอาจจะเลื่อนการแบน ต้องเป็นเรื่องที่ตอบคำถามประชาชนให้ได้ ว่าทำไม เหตุผลอย่างไร ต้องเลื่อน จากครั้งแรกที่มีมติแบน มาประชุมครั้งที่สองมีอะไร ถึงมาเลื่อนด้วยคำพูดตนเอง มีเหตุผลอะไร เพราะได้ทำสิ่งรองรับไว้หมดแล้ว ชี้แจงสารวัตรเกษตร สหกรณ์ทุกจังหวัด เพื่อมีมาตรการดูแลเกษตรกรให้ดีที่สุด ถ้าสมมุติว่าเลื่อน ต้องให้โอกาสประชาชน ผู้บริโภค รู้ว่าสวนไหนแปลงไหนใช้สาร3ตัวนี้ ติดป้ายไว้หน้าแปลง เพราะจะได้ทราบอยากรับประทานทานก็ทานไป จะได้รู้ว่ามีพิษอะไร เช่น แปลงรับรองจีเอพี ใช้สารได้ ก็ให้จีเอพีกันไป ก็ต้องบอกกันเลยตรงๆ หากคิดว่าไม่มีอันตราย ก็วินๆด้วยกัน”น.ส.มนัญญา กล่าว เมื่อถามว่าจะหารือกับรมว.อุตสาหกรรม หรือไม่ ถึงท่าทีที่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเลื่อนการแบน น.ส.มนัญญา กล่าวว่า คงไม่ต้องคุยกับนายสุริยะ เพราะงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของใคร ก็ต้องให้เกียรติเขาทำงาน เราไม่ชอบก้าวก่ายใคร แต่ทุกคนพยายามเข้ามาก้าวก่ายการทำงานเรา เราก็ไม่ชอบให้เข้ามา ซึ่งควรต้องให้สิทธิกันในการทำงานกัน ถ้าครั้งนี้ยืดเวลาได้ก็หมายความว่าต้องยืดตลอดใช่ไหม ครั้งนี้6เดือน ต่อไปก็ต่ออีก 6 เดือน ใช่หรือไม่และมีอะไร รองรับว่าจะไม่ยืดต่ออีก ทั้งนี้เงื่อนเวลาในการเก็บคืนสารภายใน 30วัน เป็นระยะเวลาที่กรมวิชาการเกษตร ดำเนินการเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตราย จนมีคำสั่งของกรมวิชาการเกษตร ลงประกาศในราชกิจจา ไปแล้ว ซึ่งทุกอย่างได้ทำมาสุดมือเตรียมไว้ทุกอย่าง รวมถึงการกำหนดระยะเวลาจัดเก็บ โดยไม่เคยไปก้าวก่ายหน่วยงาน เป็นหน้าที่ที่เสนอมาตามภารกิจ ในฐานะที่ได้รับแบ่งงานจากรมว.เกษตรฯให้รับผิดชอบกรมนี้ "สำหรับประเด็นที่บอกว่าจะกระทบการนำเข้าวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด มีทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ ไม่ใช่นำมาเป็นประเด็นไม่แบน3สารที่เป็นเรื่องภายในที่ต้องการคุ้มครองคนไทยให้ปลอดภัย"รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว ด้าน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่ากรมได้ประชุมชี้แจงสหกรณ์ทั่วประเทศ เพื่อรับทราบนโยบายรัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต ภายหลังยกเลิกใช้3สาร ได้สำรวจความต้องการเบื้องต้นว่ามีสหกรณ์ที่ต้องการเครื่องมือ เครื่องจักรกล 169แห่ง สมาชิกเกษตรกร 101,400 คน ที่ต้องการเข้าร่วมโดยเป็นสหกรณ์การเกษตรด้านมันสำปะหลัง 11 แห่ง อ้อย 5 แห่ง ยาง 78 แห่ง ปาล์ม 19 แห่ง ข้าวโพด44แห่ง และไม้ผลอื่นๆ6แห่ง ขณะนี้คาดว่าอาจมีจะสหกรณ์ที่ต้องการเข้าร่วมเพิ่ม โดยรวบรวมนำเสนอครม.ขอกลาง ปลายเดือนธ.ค.และจัดซื้อจัดหาได้ทันฤดูกาลผลิตหน้าเดือนเม.ย. พ.ค.63 สหกรณ์ที่จะเข้าโครงการต้องธุรกิจในด้านการบริการเครื่องจักรกลเกษตร และให้คิดค่าบริการเกษตรกรให้ต่ำกว่าการใช้สารเคมีเกษตร หรือไม่เกิน 120-130บาทต่อไร่ให้ นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงษ์ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และ ที่ปรึกษารมช.เกษตรฯ กล่าวย้ำว่าโครงการช่วยเหลือเกษตรกรหลังเลิกใช้3สาร ต้องมีความชัดเจน จะล้มไม่ได้ เลิกไม่ได้ ต้องชัดเจนโครงการนี้ทำเพื่อเข้าไปแก้ไขเกษตรกรที่เคยใช้3สารเคมี เรากำลังทำเรื่องแบนสาร อย่าคิดว่าเอาเงินไปแจกให้สหกรณ์ ซื้อเครื่องตัดหญ้า เครื่องจักรกล ส่วนกรณีที่ปลัดกระทรวงเกษตรฯระบุว่า อาจจะเลื่อนแบน3สารออกไปนั้น ต้องถามว่าทุกปีมียอดนำเข้า3สาร 8หมื่นตัน แต่ปีนี้ยอดนำเข้า3 หมื่นตัน แม้ว่าจะอ้างเรื่องภัยแล้ง ทำให้ขายสารได้ไม่หมด ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะทำให้เห็นว่า มีสตอกปลอม หรือไม่ที่ต้องเช็คบิลกันหลังจากนี้ และเกี่ยวกับค่าการทำลายด้วย