อมร มีมะโน ผู้ก่อตั้ง บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ AJ และตัวแทนอาลีบาบากรุ๊ป ได้นำคณะผู้นำธุรกิจจากประเทศจีน บริษัท Blue Source Capital Group (BSCG) เข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการค้าการลงทุนและธุรกิจแพลตฟอร์มของไทย-จีน เพื่อประโยชน์ในด้านการค้าและการลงทุนกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งภายหลังการหารือในครั้งนี้ถือว่าการปรึกษาหารือเป็นไปด้วยดี โดยทางรัฐบาลไทยให้ความสนใจ และให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพิจารณาอีกครั้ง สำหรับการหารือกับผู้นำธุรกิจจีนในครั้งนี้เป็นไปด้วยดี ได้มีการสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไทยมีความสนใจ และมีโอกาสที่จะนำมาสร้างแพลตฟอร์มการรวมกลุ่มรายอุตสาหกรรม (VSCP) ร่วมกันระหว่างไทยกับจีน เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนในด้านการผลิต และระบบโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยในรูปแบบใหม่ ทั้งนี้กลุ่มบริษัท Blue Source Capital Group (BSCG) ปัจจุบันได้บริหารกองทุน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และลงทุนธุรกิจต่างๆมากกว่า 200 บริษัท และยังได้เป็นผู้พัฒนาธุรกิจแพลตฟอร์ม VSCP เจ้าแรกและรายเดียวในเมืองจีน ซึ่งมีบริษัทในกลุ่มได้ทยอยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็ก ปัจจุบันได้รวมกลุ่มอุตสาหกรรม 18 กลุ่มอุตสาหกรรมของจีนเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งกลุ่มBSCG มีมูลค่าตลาดมากถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นธุรกิจแพลตฟอร์มที่กำลังได้รับความสนใจจากประเทศต่างๆ จำนวนมาก พร้อมกันนี้ เอเจฯได้มีการศึกษาแนวทางการเข้าร่วมธุรกิจในการพัฒนาแพลตฟอร์มกับ BSCG โดยมีการศึกษาร่วมกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว Wenjian Liao ประธานกรรมการ กลุ่ม Blue Source Capital Group(BSCG)กล่าวว่า บริษัทเป็นเจ้าของธุรกิจแพลตฟอร์มเกี่ยวกับกลุ่มรายอุตสาหกรรม Business model VSCP (Vertical Supply Chain + Internet + Financial Capital Innovation Platform) ซึ่งปัจจุบันได้ประสบความสำเร็จในการสร้างธุรกิจแพลตฟอร์มรายอุตสาหกรรม 18 รายอุตสาหกรรมแล้ว โดยการเดินทางมาประเทศไทยถือว่าเป็นครั้งแรกของการธุรกิจแพลตฟอร์ม VSCP ออกมาสู่ต่างประเทศ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2556 ซึ่งแพลตฟอร์ม VSCP จะช่วยผู้ประกอบการ สามารถลดต้นทุนการผลิต และต้นทุนค่าขนส่ง หรือโลจิสติกส์ได้มากกว่า 10% สาเหตุที่สามารถลดต้นทุนได้ เนื่องจากมีการรวบรวมผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันมาไว้ในทีเดียว และเพิ่มอำนาจในการต่อรองราคาวัตถุดิบ ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงจึงช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นของบริษัทที่เข้าร่วม “เมืองไทยมีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมีอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่นจำนวนมาก แต่เท่าที่ศึกษาเห็นว่า อุตสาหกรรมที่น่าจะมีการนำมาพัฒนาสู่ธุรกิจแพลตฟอร์ม VSCP มี 5 อุตสาหกรรมด้วยกันได้แก่ ธุรกิจเพื่อสุขภาพ ท่องเที่ยว เกษตร ยานยนต์ และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งอุตสาหกรรมที่น่าจะได้เห็นการศึกษาร่วมกันเป็นอันดับแรกๆเป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับทางการแพทย์ หรือยารักษาโรค โดยจะนำเข้าสู่ระบบออนไลน์ และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงถึงระดับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไป” ทั้งนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนพัฒนาธุรกิจแพลตฟอร์ม VSCP ในไทยร่วมกับบริษัทเอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)มีงบลงทุนในไทยประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯใน 10 อุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันมีการพิจารณาการลงทุน และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้