เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า ในวันที่ 28 พ.ย. นี้ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสารเคมี 3 ชนิดได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส จะแต่งชุดดำ แล้วรวมตัวกันไปเรียกร้องต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้แก้ไขปัญหาด่วนที่สุด ก่อนที่จะมีการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกใช้ 3 สารในวันที่ 1 ธ.ค. ทั้งนี้เกษตรกรได้ติดต่อกันผ่านทุกช่องทางสื่อสารโดยติด #SAVEเกษตรกรไทย เพื่อจะให้รัฐเห็นถึงความเดือดร้อนจากนโยบายดังกล่าว นายสุกรรณ์ กล่าวต่อว่า จากการที่สมาพันธ์เกษตรปลอดภัยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอเข้าชี้แจงความเดือดร้อนและผลกระทบในการประกอบอาชีพและเศรษฐกิจประเทศที่จะเกิดขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับเรื่องแทน โดยนัดหมายให้ผู้แทนสมาพันธ์ 10 คนเข้าพบในวันที่ 28 พ.ย. เช่นกัน ซึ่งจะได้สอบถามด้วยว่า หากยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเกษตรกรทั้งประเทศเตรียมมาตรการรองรับไว้พร้อมหรือยัง ส่วนที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งมาว่า จะให้ผู้แทนเกษตรกรเข้าพบ จนถึงขณะนี้เรื่องเงียบหายไป ด้านนายวีรวุฒิ กตัญญูกุล นายกสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรกล่าวว่า ได้มอบหมายผู้แทนไปร่วมกับสมาคมอารักขาพืชไทยและสมาคมเพื่อการค้าและนวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทยไปประชุมกับคณะทำงานของน.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ โดยไม่ได้พบกับน.ส.มนัญญา ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปราชการที่ประเทศจีน ทั้ง 3 สมาคมไม่ได้คาดหวังว่า นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ประธานที่ปรึกษาของรมช.มนัญญา ซึ่งจะเป็นประธานการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ (21 พ.ย.) จะรับฟังเหตุผลใดๆ จากสมาคมผู้ประกอบการนำเข้าและจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตร แต่ที่ต้องไปร่วมประชุมเนื่องจากมีการระบุว่า หากไม่มาประชุมแสดงว่า ไม่เดือดร้อน สำหรับประเด็นที่รมช.มนัญญา ระบุว่า จะให้กรมวิชาการเกษตรออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการส่งสินค้าคงค้างกลับบริษัทผู้ผลิตและส่งไปขายยังประเทศที่ 3 นั้น คงไม่สามารถดำเนินการได้ทันเนื่องจากสต็อกสินค้ามีกว่า 20,000 ตัน แต่เหลือระยะเวลาเพียง 11 วันที่กฎหมายยกเลิกสารเคมีการเกษตร 3 ชนิดจะมีผลบังคับใช้แล้ว