เมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมเป็นประธานการประชุม หลังจากก่อนหน้านี้สั่งให้มีการปรับแผนฟื้นฟูใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเฉพาะแผนการจัดหารถใหม่ที่เดิม ขสมก.มีแผนที่จะจัดซื้อรถใหม่ประมาณ 3,000 คัน แบ่งเป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิงหลายชนิดทั้งก๊าซ รถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้า รวมถึงการปรับปรุงรถเก่า ให้กลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
ทั้งนี้ล่าสุดแผนฟื้นฟูกิจการฯที่ปรับปรุงใหม่ได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่จะนำเข้าเป็นโจทก์ในที่ประชุมวันนี้ ถือว่าเป็นการรื้อแผนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการจัดหารถเมล์ใหม่จะเปลี่ยนรูปแบบจากการจัดซื้อมาเป็นการจัดเช่าทั้งล็อตจากเอกชน ในลักษณะเช่าตามระยะทางการใช้งาน หรือเช่าตาม Performace เนื่องจากมีข้อดี ขสมก.ไม่ต้องแบกรับภาระการซ่อมบำรุงรถและจัดการบุคลากรประจำรถ
โดยจากข้อมูลเบื้องต้นปัจจุบันนี้การเดินรถเมล์โดยสารในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขสมก.มีรถประมาณ 3,000 คัน และเอกชนรถร่วมบริการก็มีรถอีกประมาณ 3,000 คัน ขณะที่สภาพความเป็นจริงมีรถที่พร้อมและวิ่งให้บริการแต่ละวันประมาณ 4,000-5,000 คัน ดังนั้นเมื่อมีการปรับแผนฟื้นฟูกิจการแล้วจำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางเดินรถทั้งหมด จากเดิมเคยมีการศึกษาแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถไว้ 268 เส้นทาง
ส่วนประเด็นว่ารถที่จะเช่าใหม่นี้จะใช้เชื้อเพลิงใด ภาครัฐจะไม่สนใจประเด็นดังกล่าวโดยจะเป็นหน้าที่ของเอกชนที่ได้งานจัดหารถว่าจะใช้รถที่ใช้เชื้อเพลิงใดที่สามารถบริหารต้นทุนเกี่ยวกับเชื้อเพลิงได้ โดยภาครัฐจะคอยกำกับงานตามสัญญา เพื่อให้เอกชนจะต้องมีรถวิ่งปริมาณที่เพียงพอและกำหนดตามสัญญาไว้ หากมีรถเสียและขาดไปจากระบบ ก็จะมีการกำหนดค่าปรับต่อวันไว้ในสัญญาด้วย
โดยภายหลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดหารถเป็นการจัดเช่าตามระยะทาง กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบกจะปรับเส้นทางเดินรถให้มีความเหมาะสม มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชน ไม่ต้องต่อรถหลายเที่ยวในการเดินทาง พร้อมทั้งการจัดทำตั๋ววันราคาถูกลง เพื่อช่วยค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้เดินทาง
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหวในเรื่องของการจัดเท่านี้ ซึ่งตามแนวทางที่เหมาะสมจะต้องมีการจัดเช่า พร้อมกันทั้งรถและคนขับ แต่แนวทางดังกล่าวน่าจะกระทบกับสถานะของพนักงานขับรถของ ขสมก.ที่มีอยู่จำนวนมาก ทำให้ล่าสุดสภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.เตรียมออกมาเคลื่อนไหวแล้ว แต่กระทรวงคมนาคมแก้ปัญหาโดยให้ดำเนินการ กลับเช่าแต่เพียงตัวรถ แต่ยังใช้พนักงาน ขสมก.เป็นผู้ขับ แต่จะค่อยๆปรับเปลี่ยน โดยใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่ง เพื่อให้พนักงานขับรถ ขสมก.ทยอยเกษียณอายุ แต่จะไม่มีการรับพนักงานใหม่เพิ่ม และจะนำพนักงานของเอกชนทยอยเข้ามาขับรถทดแทน
สำหรับแนวทางนี้จะช่วยลดภาระเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของบุคลากรระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันกว่า10,000 คนเป็นพนักงาน ขสมก. และตามแผนฟื้นฟูฯ เดิมมีแนวทางที่จะทำโครงการเออรี่รีไทร์ โดยเฉพาะในส่วนของพนักงานเก็บค่าโดยสารบนรถ และส่วนอื่นประมาณ 5,000 คน ตามแนวทางที่จะมีการนำระบบจัดเก็บตั๋วอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Ticket มาใช้
