"อนุกมธ.ป.ป.ช."เดินหน้าสืบข้อเท็จจริงต่อ หลัง “ไก่อู” แจง 2 ปมร้อน“ต่อเติมอาคาร- เอื้อพรรคการเมืองช่วงลต.” คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ วันที่ 20 พ.ย.62 แหล่งข่าวในคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงการเข้าชี้แจงของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่ถูกนายจรูญ ไชยศร รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่มิชอบใน 2 ประเด็นคือ 1.การต่อเติมอาคารกรมประชาสัมพันธ์ผิดแบบ และ2. ประเด็นการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองในช่วงเลือกตั้งนั้นที่ผ่านมา โดยคณะอนุกมธ.ชุดที่ 2 ที่มีนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธานอนุกมธ. ได้ศึกษาและสรุปข้อมูล ซึ่งทั้ง 2 เรื่องมีเนื้อหาและรายละเอียด ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจจะมีการขอพยาน เอกสารหลักฐานเพิ่ม ซึ่งการชี้แจงของพล.ท.สรรเสริญ ในฐานะผู้ที่ถูกร้อง ได้มาให้ข้อเท็จจริงกว่า 2 ชั่วโมง บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งผลการประชุมที่ประชุมมีมติเห็นว่า ทั้ง 2 ประเด็น มีมูลที่ต้องสืบข้อเท็จจริงต่อ แหล่งข่าวฯ กล่าวต่อว่า สำหรับในเรื่องของ ประเด็นการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองในช่วงเลือกตั้งนั้นที่ผ่านมา โดยในสัปดาห์หน้า กมธ.ป.ป.ช.จะเชิญพรรคการเมืองที่ได้รับความกระทบกระเทือนจากการสั่งการในแอปพลิเคชั่นไลน์ของกรมประชาสัมพันธ์มาชี้แจง คือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการดูในประเด็นว่าข้อความต่างๆ เป็นการให้คุณ ให้โทษ พรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งพล.ท.สรรเสริญ ได้ชี้แจงว่าเป็นการทำหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ ที่จะต้องสื่อสารกับภาครัฐ ว่ามีข่าวอะไรบ้าง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แหล่งข่าวฯ กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องการต่อเติมอาคารกรมประชาสัมพันธ์ผิดแบบ ได้สอบอนุกมธ.ป.ป.ช.ได้สอบถามพล.ท.สรรเสริญ หลายประเด็นตามที่มีผู้ร้องเรียนมา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นกรณีที่ เร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายเงิน ตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งท่านก็ชี้แจงได้เป็นอย่างดี แต่ท้ายที่สุดดุลยพินิจในเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับ กมธ.ป.ป.ช. ว่าจะมีความเห็นอย่างไร และต้องไปดูรายละเอียด วินิจฉัยต่อไป โดยอนุกมธ. จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ต่อไป “ทั้ง 2 ประเด็นมีมูลที่ อนุกมธ.ป.ป.ช. จะต้องสอบต่อ ก่อนเข้ากมธ.ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ซึ่งไม่มีการวางกรอบเวลา แต่ จะทำให้เร็วที่สุด” แหล่งข่าว ในกมธ.ป.ป.ช. ระบุ