ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักธุรกิจยางพารา วัย 30 ปี ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์หมอนยางพาราด้วยผลงานวิจัยจาก สถาบันวิจัยยางพารา ม.สงขลานครินทร์ ที่เริ่มต้นด้วยการคัดสรรน้ำยางสดจากต้นยางพาราสายพันธุ์คุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์น้ำยางตามผลงานวิจัย นำมาผลิตหมอนยางพาราที่มีความยืดหยุ่นสูง มีสีขาวสะอาด มีกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายกลิ่นหอมจากนมสด โดย นางสาวพิมพ์นารา จันทร์ศรี กล่าวว่า ตนตั้งใจพัฒนาหมอนยางพาราที่มีขายทั่วไป ให้มีความโดดเด่น มีมูลค่าที่สูงขึ้น โดยเริ่มจากการรับซื้อน้ำยางพาราจากเกษตรกรในพื้นที่อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกที่ดี มีสภาพอากาศที่เหมาะสม ส่งน้ำยาตามพาราเข้าสู่กระบวนการผลิตตามสูตรของงานวิจัยฯ จนได้หมอนยางพารา ซึ่งหลังจากเปิดตัวหมอนยางพาราภายใต้แบรนด์ “ชบา” ได้รับการตอบรับอย่างดี มีการสั่งซื้อ และ ทำสัญญาซื้อขายเป็นรายปีจากลูกค้าชาวจีน โดยส่งขายตามสัญญาสั่งซื้อ เดือนละ 4,000 ใบ เป็นระยะเวลา 5 ปี และ มาเลย์เซีย เดือนละ 2,000 ใบ เป็นเวลา 2 ปี ตลอดทั้งลูกค้าภายในประเทศอีกหลายราย ซึ่งในปีหน้าตนเตรียมเปิดตลาดในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกด้วย และเตรียมผลิตตามแบรนด์ที่ลูกค้าต้องการ ส่วนลูกค้าทั่วไปสามารถซื้อได้ในราคาปลีก ใบละ 600 บาท สำหรับนางสาวพิมพ์นาราฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมครอบครัวของตนตั้งแต่รุ่นคุณตา-คุณยาย จนมาถึงรุ่นของเธอ ทำอาชีพรับซื้อเศษยางเป็นธุรกิจ โดยเธอเป็นรุ่นที่ 3 ของกิจการรับซื้อเศษยาง แต่ด้วยราคาผลผลิตที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้รายได้ไม่เพียงพอ และการขึ้นลงของราคายางทำให้เลี่ยงต่อภาวะขาดทุน ตนจึงมีแนวคิดในการพัฒนาย่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และสร้างจุดแข็งให้ผลิตภัณฑ์มีความแตกต่าง มีมูลค่าที่สูงขึ้น จนนำมามู่หมอนยางพาราตราชบา ดังกล่าว ถึงแม้ว่าแบรนด์ชบาจะเปิดตัวได้เพียง 1 เดือน ก้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี