วันที่ 20 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.ท่าเรือ อ.ท่าแพ จ.สตูล มี 6 หมู่บ้าน มีผู้สูงอายุทั้งหมด 540 คน ประกอบด้วยผู้สูงอายุที่มีอายุ กว่า 100 ปี จำนวน 2 ราย คือ นายเหม แดงเหม อายุ 102 ปี และ นางดี เอี้ยวหีด อายุ 103 ปี เป็นผู้สูงอายุในพื้นที่ซึ่งยังมีสุขภาพดีตามวัย โอกาสนี้นายยงยุทธ ถนอมศรีมงคล นายอำเภอท่าแพ นายอาทิตย์ วงมุสิก ปลัดอาวุโสอำเภอท่าแพ และนายบาเสด ยาพระจันทร์ นายก อบต.ท่าเรือ พร้อมด้วยนายบัณฑิต เลขะกุล ปลัดอบต.ท่าเรือ กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เดินทางเข้าเยี่ยม สอบถามสารทุกข์สุกดิบ สร้างกำลังใจให้กับบุตรหลาน ผู้ดูแลผู้สูงอายุ พร้อมกันนี้ทางอบต.ท่าเรือ ได้เก็บประวัติผู้สูงอายุในด้านการใช้ชีวิต ไว้ด้วย ด้าน นายเหม แดงเหม อายุ 102 ปี เกิด พ.ศ.2460 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แต่งงาน มีบุตร 3 คน หลาน 14 คน เหลน 33 คน โหลน 15 คน นายเหม แดงเหม ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่นา ปลูกผักกินเอง จึงทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ สมัยที่ยังเป็นหนุ่มๆก็ไม่ได้ออกกำลังกายที่เป็นแบบแผนเพราะสมัยก่อนนั้นไม่มีที่ให้ออกกำลังกาย ไม่มีลานกีฬาเหมือนสมัยนี้ แต่คุณตาก็ได้ใช้กำลังจากการเดิน ทำไร่ทำนา ขุดดิน ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ทุ่งนาและอากาศที่บริสุทธิ์ บ้านที่พักอาศัยเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงลมพัดเย็นสบายตลอดปี ปัจจุบันคุณตามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถเดินบริเวณบ้าน ลุก นั่ง ด้วยตนเองได้โดยใช้ไม้เท้าช่วยพยุง ส่วนการรับประทานอาหาร คุณตาเหมรับประทานอาหารพื้นบ้านทั่วๆไป กินปู กินปลา กินผัก เป็นหลัก และชอบทานผักสดมากซึ่งจะต้องมีทุกมื้ออาหารที่สำคัญผักจะเป็นผักที่ปลูกเองของลูกหลานจะปลอดสารพิษ เพราะรู้สึกว่าการทานปลาและผักทำให้สบายเนื้อสบายตัวเบาท้อง กินง่าย เคี้ยวง่ายและยังย่อยง่ายไม่แน่นอึดอัดท้อง ส่วนอาหารจำพวกเนื้อ ไก่ อาหารมันและหวาน คุณตาไม่รับประทานมาประมาณเกือบ 30 ปีแล้ว รสชาติของอาหารก็จะกินรสจืด เพราะป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานอีกด้วย ด้าน นายรอสิด เตาวะโต อายุ 66 ปี (บุตรเขย) กล่าวว่า ในสมัยก่อนคุณตาได้เป็นส่วนหนึ่งในการบุกเบิกถนนในหมู่บ้าน สายป่าเสม็ด-แป-ระใต้ และเข้าร่วมกิจกรรมในหมู่บ้านบ่อยครั้ง เป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่ดีงาม มีจิตใจเมตตา กรุณาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากและมีความเดือดร้อน คุณตาไม่มีหนี้สินใดๆ และได้สอนลูกหลานในเรื่องของการอดออม การประหยัดและอยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช นอกจากนี้คณะยังเดินทางไปเยี่ยม นางดี เอี้ยวหีด อายุ 103 ปี เกิด พ.ศ.2459 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เช่นกัน เดิมยายดี เป็นคนกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา มีบุตร 5 คน สามียายดีเสียชีวิตเมื่อบุตรคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.4 ทำให้ยายดีต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวดูแลลูกตามลำพัง ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชผักสวนครัว และผลไม้ เป็นอาชีพ ปัจจุบันบุตรสาวคนที่ 2 และ 3 เป็นผู้ดูแลยายดี โดยยายดียังมีสุขภาพแข็งแรง สามารถเดินรอบๆบ้านได้โดยมีบุตรทั้งสองคอยดูแล ยายดีไม่มีโรคประจำตัว ระบบการได้ยินยังปกติสามารถพูดโต้ตอบได้ ด้านนางศรีโสภาค เอี้ยวหีด ซึ่งเป็นบุตรสาวคนที่ 2 ของยายดี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่แม่ยังมีสุขภาพแข็งแรง โดยตนกับพี่สาวคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานต่างๆเข้ามาดูแล เยี่ยมเยียน และมอบสิ่งของมากมาย อาทิ อำเภอท่าแพ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล และศูนย์จัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา เป็นต้น ด้านอารมณ์บุตรสาวเล่าว่า ยายดีเป็นคนใจดี ไม่ค่อยเครียด ถ้ามีเรื่องราวที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจยายดีจะมีวิธีการจัดการกับความเครียดโดยการปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิอยู่เสมอๆ จากชีวิตประจำวันที่คุณยายได้ไปทำบุญและช่วยงานที่วัดเป็นประจำจึงทำให้คุณยายเป็นที่นับถือของคนในชุมชน มีจิตใจเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเพื่อนบ้าน ยายดีได้ใช้ชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ อยู่อย่างพอเพียง ดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เช่นเดียวกับนายเหม แดงเหม ทั้งนี้ คุณตาและคุณยาย ทั้ง 2 ท่าน เคยเล่าให้บุตรหลานฟังว่า สมัยตนเป็นเด็กก็อยู่ในยุคสงครามโลกที่มีทหารญี่ปุ่นเข้ามา ได้ยินเสียงระเบิด ได้ยินเสียงหวอดังให้วิ่งหลบหลุมใต้ดิน และเคยเก็บเสบียงอาหารกักตุนอีกด้วย และเมื่อตนเองแก่เฒ่าก็มักจะมีเด็กๆหลานๆข้าราชการมาไหว้ขอพรให้ตนเองอวยพรมีอายุยืนเหมือนกับตน นายยงยุทธ ถนอมศรีมงคล นายอำเภอท่าแพ กล่าวว่า 2 ท่านนี้เป็นผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่อำเภอท่าแพ และเป็นผู้อยู่มานานผลัดแผ่นดินมา 5 แผ่นดินจนถึงรัชกาลที่ 10 ทางอำเภอจึงได้เก็บเรื่องราวประวัติไว้ เพราะท่านทั้ง 2 คนถือว่าดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เป็นตัวอย่างแก่เรื่องสุภาพของคนที่จะก้าวเข้าสู่ผู้สูงวัย ด้านนายบาเสด ยาพระจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ กล่าวว่า การดูแลผู้สูงอายุที่ตำบลท่าเรือเรามีการดูแลเอาใจใส่ทุกครอบครัวที่มีผู้เฒ่าผู้แก่ ส่วน 2 คนนี้ ทางอบต.ก็จะนำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 มาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ทั้ง 2 ท่านได้นำไปติดฝาบ้านและผู้สูงอายุคนอื่นๆด้วยเช่นกัน