ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า การแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ทัวร์นาเม้นท์ รายการ “ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 10-16 กุมภาพันธ์ 2563 (รอบควอลิฟาย วันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563, รอบเมนดรอว์ วันที่ 10-16 กุมภาพันธ์ 2563) ที่ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับความร่วมมือจาก เอพีจี และพราว กรุ๊ป ที่จะช่วยกันจัดให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศ ทั้งเรื่องภาพลักษณ์ด้านการกีฬา และการท่องเที่ยว โดยจะพยายามดึงนักหวดสาวมือท็อป 20 ของโลกมาแน่นอน รวมทั้งนักหวดสาวจีน มือท็อป 50 โลกด้วย เพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจรายได้หลักของประเทศ นอกจากเป็นการส่งเสริมกีฬา มอบความสุขให้แฟนเทนนิสแล้ว ยังมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก จึงถือเป็นโอกาสที่เราจะนำกีฬาระดับโลกในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปทั่วโลกด้วย นอกจากการจัดการแข่งขันแล้ว ทางทรู อารีน่า หัวหิน ร่วมกับ ดับเบิลยูทีเอ จัดกิจกรรมการกุศลพิเศษ “ดับเบิลยูทีเอ แชร์ลิตี้” ให้นักเทนนิสมาร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย ซึ่งจะมีการใช้สีชมพูเป็นสัญลักษณ์ในแคมเปญช่วยเหลือครั้งนี้ โดยทางคณะผู้จัดการแข่งขันจะนำเงินรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายบัตร มอบให้องค์กรการกุศลอย่างมูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายด้วย เพื่อช่วยเหลือโครงการ “บ้านพิงพัก” ศูนย์ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายโดยไม่หวังผลกำไร ฯพณฯ สุวัจน์ กล่าวว่า สำหรับความพิเศษในการแข่งขันคือจะใช้ระบบการตัดสินที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพราะมีการใช้ระบบ ELC หรือ Electronic line calling เพื่อย้อนดูภาพการตกของลูกเทนนิสในสนาม ในจังหวะที่บางครั้งสายตาของมนุษย์ไม่สามารถมองได้ทันด้วย และกฎกติกา 25 second shot clock ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันเพิ่มขึ้นทุกปีให้เทียบเท่าระดับมาตรฐานสากล น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร พราว กรุ๊ป กล่าวว่า ทรู อารีน่า ต้องการผลักดันให้หัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงได้จัดกีฬาระดับโลกอย่างเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น โดยที่ผ่านมา ทรู อารีน่า ถือว่าเป็นสถานที่ที่มีความครบครัน และเทนนิสรายการนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการจัดกีฬาระดับโลก เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์เมืองหัวหินให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น ในส่วนการแข่งขันปีนี้ได้ปรับปรุงรูปแบบมาตรฐานการแข่งขันให้มีความสนุกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ทั้งการปรับที่นั่งชมให้ได้อรรถรสมากขึ้น รวมทั้งปรับมุมกล้อง และมีพื้นผิวสนาม ไฟส่องสว่าง ที่ช่วยการรับชมถ่ายทอดสดมีคุณภาพระดับความคมชัดสูงสุด จึงถือว่าเป็นรายการที่มีความแตกต่าง และตื่นเต้น รวมทั้งยังมีกิจกรรมการกุศลด้วย นพ.อธิศพันธุ์ จุลภทัพพะ กรรมการมูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า การจัดทัวร์นาเมนต์นี้ ในส่วนของมูลนิธได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ตั้งแต่ช่วงต้น, กลาง และท้าย โดยช่วยเหลือแทบทุกอย่าง ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือ และบุคลากร ส่วนบ้านพิงพักจะเป็นสถานที่ที่ดูผู้ป่วยช่วงท้ายของชีวิต อย่างไรก็ตาม กีฬา รวมทั้งกีฬาเทนนิส ถือเป็นกิจกรรมที่มูลนิธิพยายามที่จะให้ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมเพื่อออกกำลังกาย ซึ่งต้องขอบคุณผู้จัดรายการนี้ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของกีฬาเทนนิส และผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมอีกด้วย