“ธรรมนัส” ปัดสั่งรื้อฟาร์มไก่ “ปารีณา” มอบกรมป่าไม้-ส.ป.ก เร่งตรวจสอบอยู่ในเขตพื้นที่ของใคร หากเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ต้องยึดคืนหลวงทันที เมื่อวันที่ 19 พ.ย. เวลา 14.00 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีสั่งให้รื้อฟาร์มไก่ ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐว่า ตนไม่ได้สั่ง แต่ได้สั่งการให้เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) บูรณาการร่วมกับอธิบดีกรมป่าไม้ หาข้อสรุปโดยอิงกฎหมายเป็นหลัก หากเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ก็ให้ปิดประกาศ และดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งปัญหาขณะนี้ เมื่อเช็กภาพถ่ายทางอากาศเป็นที่ทับซ้อนระหว่างกรมป่าไม้ กับ ส.ป.ก. ดังนั้นทั้ง 2 หน่วยงานต้องประสานกัน ในฐานะที่เราเป็นผู้กำหนดนโยบายรายละเอียดต่างๆ ให้ฝ่ายกฎหมาย ส.ป.ก. และกรมป่าไม้ ร่วมกันหาทางออก ประเด็นสำคัญ คือ อิงกฎหมายเป็นหลัก “ทั้งนี้ ตามหลักความเป็นจริง ภาพถ่ายที่ประกาศเป็นเขตพื้นที่ ส.ป.ก. มีจุดข้อสังเกตว่า กลางเขาจะปักเป็นเขต ส.ป.ก. ไม่ได้ ซึ่งผมยืนยันเหมือนเดิม ต้องมีการบังคับใช้ และมีการประกาศใช้แผนที่วันแม๊พให้ได้ มิเช่นนั้นแก้ปัญหาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากได้ข้อสรุประหว่างกรมป่าไม้ กับ ส.ป.ก. เมื่อไหร่ จะใเปิดการแถลงข่าวทันที”รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว เมื่อถามว่า จะรื้อฟาร์มไก่จริงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ เมื่อถามว่ามีข่าวออกมาว่า สั่งให้รื้อ เพราะอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก. ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สรุปสั้นๆ เลยว่า หากเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ต้องยึดหลักกฎหมายของสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบนักการเมืองคนอื่นๆ ที่เข้าข่ายเดียวกับน.ส.ปารีณา หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อวาน (18 พ.ย.62) ได้สั่งการเลขาธิการ ส.ป.ก. มีการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ทั้ง 12 จังหวัด ให้แต่ละจังหวัดส่งรายงานการจัดสรรที่ดินที่ผ่านมาทั้งหมด และที่ยังไม่ได้จัดสรรโดยด่วน ซึ่งยึดแนวทางเดียวกัน คือ ยึดกฎหมาย ส.ป.ก. เป็นหลัก ในส่วนพื้นที่ ส.ป.ก. ส่วนเรื่องที่ของกรมป่าไม้ เป็นหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปดำเนินการแก้ไข เมื่อถามว่า ดำเนินการตรวจสอบแล้วเสร็จหรือยัง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่มอบนโยบายแล้วว่า ให้ตรวจสอบทั้งหมด แต่ว่ากระบวนการทำงานของข้าราชการ ต้องรับผิดชอบว่าทำไมถึงล่าช้า จึงมีการสั่งการเมื่อวานว่า ให้มีการสำรวจพื้นที่จัดสรรทั้งหมด และที่ยังไม่ได้จัดสรร โดยพื้นที่ ส.ป.ก. ทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 40 ล้านไร่ ถือเป็นที่ดินแปลงใหญ่มาก ต้องมีการจัดระบบ เมื่อถามว่า น.ส.ปารีณา มาทำเนียบฯ วันนี้ ได้มีการพูดคุยหารือเรื่องนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มาพบตน ส่วนไปที่กระทรวงเกษตรฯ เมื่อวาน เห็นว่าจะไปหานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่ท่านไม่อยู่ เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะสามารถเอาผิด น.ส.ปารีณา ย้อนหลังได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าว ในส่วนพื้นที่ ส.ป.ก. เขาเข้าครอบครองก่อนที่จะมีการประกาศเขต ส.ป.ก. แปลงนี้ ในเรื่องอาญาไม่สามารถกระทำได้ แต่การยึดพื้นที่คืนหลวง ต้องยึดหลักกฎหมาย ส.ป.ก. เมื่อถามว่ามีการอ้างว่าเช่าที่ดินจากเกษตรกรเดิม จำนวน 53 แปลง ตามหลักกฎหมายสามารถทำได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตามหลักกฎหมาย ส.ป.ก. ไม่สามมารถทำได้ ยกเว้นอย่างเดียว คือ เป็นมรดกตกทอดสู่ทายาท นอกจากนี้พื้นที่ ส.ป.ก. หลังจากที่มีการยึดคืนหลวงแล้ว จะต้องมีการประกาศให้พี่น้องเกษตรกร ลงทะเบียนจองที่ดินตามกฎหมาย ส.ป.ก. เมื่อถามว่าหากดูคุณสมบัติของน.ส.ปารีณา ไม่สามารถครอบครองที่ดิน ส.ป.ก ได้ไช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คุณสมบัติต้องดูว่า ทำการเกษตรหรือไม่ แต่ที่ดินกฎหมายกำหนดชัดเจนว่า ต้องไม่เกิน 50 ไร่ และไม่สามารถนำไปซื้อขายต่อได้ เมื่อถามว่าน.ส.ปารีณา ได้ชี้แจงหรือไม่ว่า ที่ดินเป็นพันไร่ ได้มาอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้เดี๋ยวทางเลขาธิการ ส.ป.ก จะมารายงานให้ทราบ เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการกฎหมายที่ต้องปฏิบัติการต่อไป ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกรณีที่ดินของแม่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ว่า ที่ดินของแม่นายธนาธร ไม่น่าจะอยู่ในเขตพื้นที่ ส.ป.ก.